นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายทะเบียนพรรคการเมืองในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าให้ถ้อยคำต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณียื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากการแถลงข่าวใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยมว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือแจ้งเรื่องดังกล่าวจาก กกต.คาดว่าคงอยู่ในช่วงการสอบสวนของ กกต.หากพบว่าคำร้องมีมูลอาจจะเชิญตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์เข้าให้ถ้อยคำในภายหลัง
ทั้งนี้ นายวิรัตน์ กล่าวมั่นใจว่า กกต.ไม่มีโอกาสที่จะชี้มูลตามคำร้องของนายเรืองไกร เพราะพรรคไม่มีพฤติกรรมหาเรื่อง จะมีแต่การชี้แจงตอบโต้กรณีที่ถูกพรรคอื่นใส่ร้าย ที่สำคัญที่ผ่านมาเรื่องที่นายเรืองไกร ร้องหากคิดเป็น 100 เรื่อง จะถูกยุติให้คำร้องตกถึง 98 เรื่อง อีกทั้งทางพรรคเพื่อไทยประกาศยุติกิจกรรมทางการเมืองไปแล้ว จึงต้องรอดูว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังคงความเป็นพรรคการเมืองอยู่ คณะกรรมการบริหารพรรคยังคงอยู่ แต่ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่สั่งห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พรรคก็จะหยุดกิจกรรม เพื่อรอให้ คสช.แก้ปัญหาประเทศไปก่อน
ทั้งนี้ นายวิรัตน์ กล่าวมั่นใจว่า กกต.ไม่มีโอกาสที่จะชี้มูลตามคำร้องของนายเรืองไกร เพราะพรรคไม่มีพฤติกรรมหาเรื่อง จะมีแต่การชี้แจงตอบโต้กรณีที่ถูกพรรคอื่นใส่ร้าย ที่สำคัญที่ผ่านมาเรื่องที่นายเรืองไกร ร้องหากคิดเป็น 100 เรื่อง จะถูกยุติให้คำร้องตกถึง 98 เรื่อง อีกทั้งทางพรรคเพื่อไทยประกาศยุติกิจกรรมทางการเมืองไปแล้ว จึงต้องรอดูว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ยังคงความเป็นพรรคการเมืองอยู่ คณะกรรมการบริหารพรรคยังคงอยู่ แต่ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่สั่งห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พรรคก็จะหยุดกิจกรรม เพื่อรอให้ คสช.แก้ปัญหาประเทศไปก่อน