นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประเทศคู่ค้า เช่น ฮ่องกง จีน และไต้หวัน พบปัญหาการปลอมปนข้าวหอมมะลิไทยกับข้าวพันธุ์อื่นๆ และยังนำเครื่องหมายการค้าข้าวหอมมะลิไทยที่กรมการค้าต่างประเทศได้จดทะเบียนเครื่องหมายรับรองไว้หลายภูมิภาค รวม 46 ประเทศไปใช้อย่างไม่ถูกต้องสร้างความสับสนต่อผู้บริโภคชาวต่างประเทศและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทยในตลาดต่างประเทศอย่างมาก
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจของผู้บริโภคที่นิยมบริโภคข้าวหอมมะลิไทยทั้งประเทศดังกล่าวและผู้บริโภคทั่วโลก กรมการค้าต่างประเทศจึงได้จัดทำโครงการติดตามคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยและการใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยในประเทศต่างๆ
ทั้งนี้ จะเริ่มใน 3 ประเทศดังกล่าวให้ทางเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของกรมการค้าต่างประเทศร่วมกับนักวิชาการเดินทางไปสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภคและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิไทย รวมทั้งจะได้สำรวจตลาดค้าปลีก ค้าส่ง พร้อมทั้งเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตลาดข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งจะเดินทางได้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกข้าวหอมมะลิไทยที่สำคัญอันดับ 5 ของไทย และข้าวหอมมะลิไทยยังเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียรองจากฮ่องกง โดยปีที่ผ่านมาไทยส่งออกข้าวหอมมะลิไปทั่วโลกปีละ 1.9 ล้านตัน ซึ่งตลาดจีนกว่า 1.3 แสนตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.4 พันล้านบาท ขณะที่ตลาดไต้หวันนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยในปีที่ผ่านมากกว่า 6 พันตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ซึ่งตลาดเหล่านี้ยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้เพิ่มขึ้น จึงเป็นสิ่งที่กรมการค้าต่างประเทศจะต้องเร่งหาทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการปลอมปนข้าวหอมมะลิไทยและการลอกเลียนแบบเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยเป็นการเร่งด่วนต่อไป
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจของผู้บริโภคที่นิยมบริโภคข้าวหอมมะลิไทยทั้งประเทศดังกล่าวและผู้บริโภคทั่วโลก กรมการค้าต่างประเทศจึงได้จัดทำโครงการติดตามคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยและการใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยในประเทศต่างๆ
ทั้งนี้ จะเริ่มใน 3 ประเทศดังกล่าวให้ทางเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของกรมการค้าต่างประเทศร่วมกับนักวิชาการเดินทางไปสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภคและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิไทย รวมทั้งจะได้สำรวจตลาดค้าปลีก ค้าส่ง พร้อมทั้งเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของตลาดข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งจะเดินทางได้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกข้าวหอมมะลิไทยที่สำคัญอันดับ 5 ของไทย และข้าวหอมมะลิไทยยังเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียรองจากฮ่องกง โดยปีที่ผ่านมาไทยส่งออกข้าวหอมมะลิไปทั่วโลกปีละ 1.9 ล้านตัน ซึ่งตลาดจีนกว่า 1.3 แสนตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 4.4 พันล้านบาท ขณะที่ตลาดไต้หวันนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยในปีที่ผ่านมากกว่า 6 พันตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท ซึ่งตลาดเหล่านี้ยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้เพิ่มขึ้น จึงเป็นสิ่งที่กรมการค้าต่างประเทศจะต้องเร่งหาทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการปลอมปนข้าวหอมมะลิไทยและการลอกเลียนแบบเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยเป็นการเร่งด่วนต่อไป
