นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวถึงการประชุมระหว่างเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้า คสช. เน้นย้ำกับคณะทูตให้ทำความเข้าใจกับชุมชนชาวไทยในต่างประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทย และการเคารพกฎหมายหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 ส่วนกลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวต่อต้านการทำรัฐประหารของไทยในต่างประเทศ ทางสถานเอกอัครราชทูตจะต้องตรวจสอบก่อนว่า บุคคลดังกล่าวอาศัยอยู่ในประเทศนั้นหรือไม่ เช่น กรณีของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกัมพูชา ก็ไม่ชัดเจนว่านายจักรภพ อยู่ในกัมพูชาหรือไม่ ทางสถานเอกอัครราชทูตจึงต้องตรวจสอบเสียก่อน และรายงานข้อมูลกลับมายัง คสช.
ส่วนกรณีนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระ ซึ่งได้รับเชิญไปบรรยายพิเศษที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยนายวีรพัฒน์ ยืนยันว่า จะไม่กลับมารายงานตัวกับทาง คสช.นั้น นายเสข ชี้แจงว่า สถานเอกอัครราชทูตได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับฟังการบรรยาย และสรุปข้อมูล พร้อมรายงานกลับมายัง คสช.แล้ว
สำหรับการดำเนินคดีกับ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน และเป็นผู้ที่ คสช.เรียกมารายงานตัว ขณะนี้ น.ส.ฉัตรวดี อาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และได้สัญชาติอังกฤษแล้ว ทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ ทำให้ต้องใช้กฎหมายระหว่างประเทศในการดำเนินการ
ส่วนกรณีนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระ ซึ่งได้รับเชิญไปบรรยายพิเศษที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยนายวีรพัฒน์ ยืนยันว่า จะไม่กลับมารายงานตัวกับทาง คสช.นั้น นายเสข ชี้แจงว่า สถานเอกอัครราชทูตได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับฟังการบรรยาย และสรุปข้อมูล พร้อมรายงานกลับมายัง คสช.แล้ว
สำหรับการดำเนินคดีกับ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบัน และเป็นผู้ที่ คสช.เรียกมารายงานตัว ขณะนี้ น.ส.ฉัตรวดี อาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และได้สัญชาติอังกฤษแล้ว ทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ ทำให้ต้องใช้กฎหมายระหว่างประเทศในการดำเนินการ