นางเพ็ญจันทร์ วัฒนะมงคล รองผู้อำนวยการ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน กล่าวถึงกรณีปิดโรงเรียนเป็นเวลา 4 วัน เพื่อแก้ปัญหาระบบน้ำของโรงเรียนที่ทำให้มีเด็กนักเรียน และครูป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนได้แก้ไขระบบน้ำของโรงเรียนใหม่แล้ว โดยล้างและปรับปรุงระบบท่อน้ำใหม่ และนำแท็งก์น้ำใต้ดิน มาไว้บนดินรวม 4 แท็งก์ด้วยกัน ขนาด 12,000 ลิตร คาดว่าเพียงพอกับการดื่มและปรุงอาหารในโรงเรียน โดยการแก้ไขนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 7-10 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากโรงเรียนพบเด็กป่วย 846 คน ครูป่วย 70 คน รวม 916 คน หรือคิดเป็นร้อยละ15 ของนักเรียนและครูทั้งหมด 6,000 คน
ด้าน น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเก่าแก่รวม 162 ปี การปรับปรุงท่อครั้งนี้ ได้รับการดูแลจากศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 23 สี่พระยา สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว คาดว่าจะมีการติดตามผลไปอีก 2 สัปดาห์ว่า จำนวนผู้ป่วยลดหรือไม่ แต่จากการสอบสวนไม่พบการเจ็บป่วยนอกโรงเรียน จึงเชื่อว่ามาจากระบบท่อน้ำดื่มภายใน สำหรับเชื้อไวรัสที่ก่อโรค ครั้งมี 2 ชนิด ได้แก่ โนโรไวรัส และโรต้าไวรัส ซึ่งจะทำให้มีอาการท้องเสีย อาเจียน แต่ไม่มีรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
สำหรับประเทศไทย การท้องเสียส่วนใหญ่พบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย การดูแลจากนี้ นอกจากทำความสะอาดท่อและระบบน้ำแล้ว หากพบมีอาการเจ็บป่วยจากท้องเสีย ควรดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อควบคุมอาการ ลดการสูญเสียน้ำในร่างกาย
ด้าน น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเก่าแก่รวม 162 ปี การปรับปรุงท่อครั้งนี้ ได้รับการดูแลจากศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 23 สี่พระยา สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว คาดว่าจะมีการติดตามผลไปอีก 2 สัปดาห์ว่า จำนวนผู้ป่วยลดหรือไม่ แต่จากการสอบสวนไม่พบการเจ็บป่วยนอกโรงเรียน จึงเชื่อว่ามาจากระบบท่อน้ำดื่มภายใน สำหรับเชื้อไวรัสที่ก่อโรค ครั้งมี 2 ชนิด ได้แก่ โนโรไวรัส และโรต้าไวรัส ซึ่งจะทำให้มีอาการท้องเสีย อาเจียน แต่ไม่มีรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต
สำหรับประเทศไทย การท้องเสียส่วนใหญ่พบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย การดูแลจากนี้ นอกจากทำความสะอาดท่อและระบบน้ำแล้ว หากพบมีอาการเจ็บป่วยจากท้องเสีย ควรดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อควบคุมอาการ ลดการสูญเสียน้ำในร่างกาย