น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้ได้รับรายงานความคืบหน้าการให้การช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายวางระเบิดในพื้นที่จ.ปัตตานีและนราธิวาสเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายแพทย์สาธารณสุข จ.ปัตตานีรายงานล่าสุดว่า มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บทั้งหมด 73 ราย ส่วนใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิด ซึ่งแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่ จนส่วนใหญ่อาการดีขึ้นแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 51 ราย เหลือที่ต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล 22 ราย โดยอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 20 ราย ขณะนี้อาการหนักอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. 3 ราย ที่เหลือ 17 ราย พักรักษาตัวในหอผู้ป่วยสามัญ โดยในจำนวนนี้เป็นพยาบาลโรงพยาบาลโคกโพธิ์ 1 ราย ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าท้อง ลำไส้ใหญ่ฉีกขาดได้รับการผ่าตัดเย็บลำไส้ใหญ่ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 2 ราย ถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลยะลา โดยรายแรกเป็นเด็กอายุ 2 ปี ต้องรักษาอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. เพราะมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะหลายแห่ง มีเลือดออกในสมอง และมีบาดแผลที่ลำตัว แขนขา ประมาณ 10 แผล แพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองนำสะเก็ดระเบิดออกแล้ว อาการล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้รู้สึกตัวดี แต่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งแพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนอีกรายเป็นหญิงอายุ 29 ปี มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดหลายแผลที่ขาทั้ง 2 ข้าง พักอยู่หอผู้ป่วยสามัญ อาการโดยรวมปลอดภัย
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ย้ำให้โรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ จัดเตรียมความพร้อมในการจัดบริการทั้งห้องฉุกเฉิน คลังเลือด ห้องผ่าตัด ไอซียูให้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ทุกแห่งให้เข้มงวด และความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในหน่วยแพทย์กู้ชีพ ซึ่งต้องเดินทางออกไปให้การดูแลผู้เจ็บป่วยในที่เกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 2 ราย ถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลยะลา โดยรายแรกเป็นเด็กอายุ 2 ปี ต้องรักษาอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. เพราะมีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะหลายแห่ง มีเลือดออกในสมอง และมีบาดแผลที่ลำตัว แขนขา ประมาณ 10 แผล แพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองนำสะเก็ดระเบิดออกแล้ว อาการล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้รู้สึกตัวดี แต่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งแพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนอีกรายเป็นหญิงอายุ 29 ปี มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดหลายแผลที่ขาทั้ง 2 ข้าง พักอยู่หอผู้ป่วยสามัญ อาการโดยรวมปลอดภัย
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ย้ำให้โรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ จัดเตรียมความพร้อมในการจัดบริการทั้งห้องฉุกเฉิน คลังเลือด ห้องผ่าตัด ไอซียูให้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ทุกแห่งให้เข้มงวด และความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในหน่วยแพทย์กู้ชีพ ซึ่งต้องเดินทางออกไปให้การดูแลผู้เจ็บป่วยในที่เกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง