พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.) แถลงหลังการหารือร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ตัวแทนองค์กรอิสระ ภาคเอกชน ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ว่า ได้ชี้แจงถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น และนับเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งเพื่อหาทางออกให้กับประเทศร่วมกัน โดยการสลายกลุ่มทางการเมือง และเดินหน้าสู่ความสงบสันติ พร้อมขอให้ชุมนุมโดยสงบ
ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเพียงการประกาศบางมาตราเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาค่ำคืน (เคอร์ฟิว) แต่จะใช้กฎอัยการศึกไปจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย
ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำด้วยว่า 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และขอให้เชื่อมั่นว่า ข้าราชการประจำ และทหาร จะร่วมกันทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง พร้อมย้ำว่า จะไม่ให้เกิดความรุนแรงและเกิดการนองเลือดในประเทศ
ส่วนการจะเรียกแกนนำผู้ชุมนุม ทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.มาพูดคุย ก็เป็นขั้นตอนต่อไป และหาก กอ.รส.เชิญบุคคลใดให้มาร่วมพูดคุย ก็ต้องมา
สำหรับการจัดการเลือกตั้ง ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ที่ต้องยุติความขัดแย้งก่อน
ขณะที่การเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะระบุว่า จะจัดการเลือกตั้งแม้มีการประกาศกฎอัยการศึก ผู้บัญชาการทหารบก บอกผ่านเลขาธิการ กกต.ว่า ขอให้ กกต.ทบทวน หากจัดการเลือกตั้งท่ามกลางสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ จะทำให้เกิดการสูญเสียจากเหตุความขัดแย้ง กกต.ก็ควรจะพิจารณา
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึก เนื่องจากที่ผ่านมายังมีการใช้ความรุนแรงจนนำไปสู่การบาดเจ็บและการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้จะไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเพียงการประกาศบางมาตราเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาค่ำคืน (เคอร์ฟิว) แต่จะใช้กฎอัยการศึกไปจนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย
ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำด้วยว่า 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และขอให้เชื่อมั่นว่า ข้าราชการประจำ และทหาร จะร่วมกันทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง พร้อมย้ำว่า จะไม่ให้เกิดความรุนแรงและเกิดการนองเลือดในประเทศ
ส่วนการจะเรียกแกนนำผู้ชุมนุม ทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.มาพูดคุย ก็เป็นขั้นตอนต่อไป และหาก กอ.รส.เชิญบุคคลใดให้มาร่วมพูดคุย ก็ต้องมา
สำหรับการจัดการเลือกตั้ง ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ที่ต้องยุติความขัดแย้งก่อน
ขณะที่การเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะระบุว่า จะจัดการเลือกตั้งแม้มีการประกาศกฎอัยการศึก ผู้บัญชาการทหารบก บอกผ่านเลขาธิการ กกต.ว่า ขอให้ กกต.ทบทวน หากจัดการเลือกตั้งท่ามกลางสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ จะทำให้เกิดการสูญเสียจากเหตุความขัดแย้ง กกต.ก็ควรจะพิจารณา
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำถึงการประกาศใช้กฎอัยการศึก เนื่องจากที่ผ่านมายังมีการใช้ความรุนแรงจนนำไปสู่การบาดเจ็บและการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกครั้งนี้จะไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
