นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากกลุ่มการเมืองและกลุ่มนายทุนกดดันจนทำให้โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยสิ้นสุดลง ล่าสุดราคาข้าวเปลือกในท้องตลาดซื้อขายกันที่ตันละ 4,500-6,500 บาทเท่านั้น ถือว่าไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต ประกอบกับชาวนาจำนวนมากยังไม่รับเงินสดจากการนำข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการจำนำข้าวครั้งล่าสุด ทำให้ชาวนาเดือดร้อน เพราะจำเป็นต้องนำเงินไปใช้จ่ายและชดใช้หนี้สิน
ดังนั้น นอกจากจะขอให้เร่งรัดการจ่ายเงินค้างจ่ายตามโครงการรับจำนำข้าวแล้ว สมาคมฯ ขอเรียกร้อง 4 ข้อไปยังรัฐบาลรักษาการ และวิงวอนทุกกลุ่มการเมือง คือ ขอชดเชยปัจจัยการผลิตให้ชาวนาไร่ละไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท เหมือนกับการชดเชยให้กับชาวสวนยางพารา ขอให้แทรกแซงการรับซื้อข้าวเปลือก เพื่อให้ชาวนาขายข้าวเปลือกได้ไม่ต่ำกว่าตันละ 6,000 บาท
นอกจากนี้ ขอให้จัดตลาดนัดข้าวเปลือกในทุกจังหวัด เพื่อให้พ่อค้ารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาโดยตรงในราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต และขอให้เร่งรัดการออกกฎหมายชาวนาและสวัสดิการชาวนา ซึ่งจัดทำร่างฯ เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว
ดังนั้น นอกจากจะขอให้เร่งรัดการจ่ายเงินค้างจ่ายตามโครงการรับจำนำข้าวแล้ว สมาคมฯ ขอเรียกร้อง 4 ข้อไปยังรัฐบาลรักษาการ และวิงวอนทุกกลุ่มการเมือง คือ ขอชดเชยปัจจัยการผลิตให้ชาวนาไร่ละไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท เหมือนกับการชดเชยให้กับชาวสวนยางพารา ขอให้แทรกแซงการรับซื้อข้าวเปลือก เพื่อให้ชาวนาขายข้าวเปลือกได้ไม่ต่ำกว่าตันละ 6,000 บาท
นอกจากนี้ ขอให้จัดตลาดนัดข้าวเปลือกในทุกจังหวัด เพื่อให้พ่อค้ารับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาโดยตรงในราคาไม่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต และขอให้เร่งรัดการออกกฎหมายชาวนาและสวัสดิการชาวนา ซึ่งจัดทำร่างฯ เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว