ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผู้บัญชาการ ปส. ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ห้องหาคดียาเสพติด ประกอบด้วย นายชาญชัย กุลฐาศรี อายุ 24 ปี นายบัวที สายโสม อายุ 31 ปี และนายบุญเลิศ ม่วงเงิน อายุ 24 ปี พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ด กระเป๋าเดินทางสีเทา 2 ใบ รถยนต์กระบะนิสสัน สีดำ ทะเบียน ตส 8595 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมาชุดสืบสวนได้รับแจ้งว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวม้งลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ ไปส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือปริมลฑล โดยกลุ่มคนร้ายจะซุกซ่อนยาเสพติดไปกับสัมภาระของบริษัท สมบัติทัวร์ โดยนายชาญชัยร่วมมือกับนายบัวที ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทรถทัวร์ดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงได้ไปสังเกตการณ์บริเวณท่ารถที่ อ.เชียงของ พบเห็นผู้ต้องหาทั้งสอง ขึ้นรถทัวร์ปรับอากาศสายเชียงของ-กรุงเทพฯ จึงได้ติดตามรถทัวร์คันดังกล่าวมาจนถึงด่านตรวจแม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด บรรจุอยู่กระเป๋าสีเทา 2 ใบ อยู่ในช่องสัมภาระของรถทัวร์ดังกล่าว จากนั้นจึงทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง และขยายผลจับกุมนายบุญเลิศ ซึ่งขับรถยนต์มาจอดรอรับยาเสพติด บริเวณริมถนนสายเอเชีย ต.คลองสวนพูล อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จับกุมนำส่งดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า ทาง ป.ป.ส. และ ปส. สืบทราบว่า ขณะนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.นนทบุรี เป็นแหล่งพักยาบ้าขนาดใหญ่ และยังมีชุมชุนจำนวนมาก รวมทั้งอุตสาหกรรมโรงงานทางตำรวจและ ป.ป.ส. จะให้ความสำคัญเรื่องสกัดกั้นจับเครือข่ายลำเลียงยาบ้า ก่อนที่จะกระจายลงไปที่ชุมชน ยาบ้าของกลางดังกล่าวเป็นของเครือข่ายมูเซอ ซึ่งนายชาญชัย ร่วมมือกับนายบัวที ได้ค่าจ้างรวมกัน 500,000 บาท
นายชาญชัย รับสารภาพว่า เป็นคนรับยาบ้ามาทำการแพคห่อ เพื่อป้องกันสุนัขตำรวจดมกลิ่น ส่วนนายบัวที ซึ่งเป็นพนักงานผู้ช่วยคนขับของบริษัทสมบัติทัวร์นั้น คาดว่าทำมาแล้วหลายครั้งขณะที่นายบุญเลิศ ได้รับคำสั่งจากกลุ่มผู้ค้า จึงไม่มีค่าจ้าง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมาชุดสืบสวนได้รับแจ้งว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวม้งลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ ไปส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือปริมลฑล โดยกลุ่มคนร้ายจะซุกซ่อนยาเสพติดไปกับสัมภาระของบริษัท สมบัติทัวร์ โดยนายชาญชัยร่วมมือกับนายบัวที ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทรถทัวร์ดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงได้ไปสังเกตการณ์บริเวณท่ารถที่ อ.เชียงของ พบเห็นผู้ต้องหาทั้งสอง ขึ้นรถทัวร์ปรับอากาศสายเชียงของ-กรุงเทพฯ จึงได้ติดตามรถทัวร์คันดังกล่าวมาจนถึงด่านตรวจแม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด บรรจุอยู่กระเป๋าสีเทา 2 ใบ อยู่ในช่องสัมภาระของรถทัวร์ดังกล่าว จากนั้นจึงทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง และขยายผลจับกุมนายบุญเลิศ ซึ่งขับรถยนต์มาจอดรอรับยาเสพติด บริเวณริมถนนสายเอเชีย ต.คลองสวนพูล อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จับกุมนำส่งดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า ทาง ป.ป.ส. และ ปส. สืบทราบว่า ขณะนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.นนทบุรี เป็นแหล่งพักยาบ้าขนาดใหญ่ และยังมีชุมชุนจำนวนมาก รวมทั้งอุตสาหกรรมโรงงานทางตำรวจและ ป.ป.ส. จะให้ความสำคัญเรื่องสกัดกั้นจับเครือข่ายลำเลียงยาบ้า ก่อนที่จะกระจายลงไปที่ชุมชน ยาบ้าของกลางดังกล่าวเป็นของเครือข่ายมูเซอ ซึ่งนายชาญชัย ร่วมมือกับนายบัวที ได้ค่าจ้างรวมกัน 500,000 บาท
นายชาญชัย รับสารภาพว่า เป็นคนรับยาบ้ามาทำการแพคห่อ เพื่อป้องกันสุนัขตำรวจดมกลิ่น ส่วนนายบัวที ซึ่งเป็นพนักงานผู้ช่วยคนขับของบริษัทสมบัติทัวร์นั้น คาดว่าทำมาแล้วหลายครั้งขณะที่นายบุญเลิศ ได้รับคำสั่งจากกลุ่มผู้ค้า จึงไม่มีค่าจ้าง
