การประชุมสภาสมัยวิสามัญนัดที่ 2 วันนี้ (9 พ.ค.) จะเริ่มในเวลา 13.30 น. มีวาระการประชุมเร่งด่วน คือ ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คือ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และเรื่องที่หลายฝ่ายจับตา คือ ญัตติการเลือกประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 และตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อสรรหา ส.ว.ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา
สำหรับแคนดิเดตผู้ที่จะลงชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภาคนใหม่ จนถึงขณะนี้มีอยู่ประมาณ 4 ราย คือ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ส.ว.สรรหา นายจองชัย เที่ยงธรรม ส.ว.สุพรรณบุรี และนายศรีเมือง เจริญศิริ ซึ่งต่างคนต่างมีเสียงสนับสนุน แต่ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา จะต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือเกิน 75 เสียงจากจำนวน ส.ว.150 คน แต่หากรอบแรกไม่มีผู้ได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะต้องนำผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 2 ลำดับแรกมาลงคะแนนลับใหม่
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จงรัก ยืนยันว่า พร้อมลงชิงตำแหน่งโดยอิสระ ปราศจากการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย และไม่ขอตอบถึงจุดยืนเรื่องนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7
ด้านนายสุรชัย กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยหาทางออกให้กับประเทศ โดยวุฒิสภาจะเสนอตัวเป็นองค์กรแก้ปัญหาหากเกิดวิกฤตขึ้นและเตรียมหารือ ส.ว.ทั้ง 150 คน นอกรอบด้วย ขณะชี้แจงเหตุผลว่าไม่สามารถลาออกจากตำแหน่งรองประธานก่อนลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมือง
สำหรับแคนดิเดตผู้ที่จะลงชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภาคนใหม่ จนถึงขณะนี้มีอยู่ประมาณ 4 ราย คือ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ส.ว.สรรหา นายจองชัย เที่ยงธรรม ส.ว.สุพรรณบุรี และนายศรีเมือง เจริญศิริ ซึ่งต่างคนต่างมีเสียงสนับสนุน แต่ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา จะต้องได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือเกิน 75 เสียงจากจำนวน ส.ว.150 คน แต่หากรอบแรกไม่มีผู้ได้รับเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะต้องนำผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 2 ลำดับแรกมาลงคะแนนลับใหม่
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จงรัก ยืนยันว่า พร้อมลงชิงตำแหน่งโดยอิสระ ปราศจากการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย และไม่ขอตอบถึงจุดยืนเรื่องนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7
ด้านนายสุรชัย กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยหาทางออกให้กับประเทศ โดยวุฒิสภาจะเสนอตัวเป็นองค์กรแก้ปัญหาหากเกิดวิกฤตขึ้นและเตรียมหารือ ส.ว.ทั้ง 150 คน นอกรอบด้วย ขณะชี้แจงเหตุผลว่าไม่สามารถลาออกจากตำแหน่งรองประธานก่อนลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมือง
