นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองเป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันเศรษฐกิจ หากไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจในการบริหารประเทศ ยืดเยื้อจนถึงไตรมาส 3 ของปีนี้ จะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และเป็นห่วงว่าจะส่งผลต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้อาจขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 2 และการไม่มีทิศทางนโยบายที่ชัดเจน อาจทำให้ภาพลักษณ์ประเทศในสายตานักลงทุนมีความเชื่อมั่นลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน
ทั้งนี้ หากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อต่อไป ธนาคารได้เตรียมปรับลดเป้าสินเชื่อลงอีก จากที่เคยปรับลดลงมาแล้วเมื่อช่วงต้นปี โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 10-15 จากปีก่อนขยายได้ร้อยละ 25 เพราะคาดว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 จะยังไม่ดีขึ้น ทั้งการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน ประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย
ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4-5 สินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีจึงลดลง ดังนั้นการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงขึ้นอยู่กับการใช้งบประมาณของภาครัฐ แต่รัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการจึงทำให้มีข้อจำกัดในการใช้งบประมาณ
ทั้งนี้ หากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อต่อไป ธนาคารได้เตรียมปรับลดเป้าสินเชื่อลงอีก จากที่เคยปรับลดลงมาแล้วเมื่อช่วงต้นปี โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 10-15 จากปีก่อนขยายได้ร้อยละ 25 เพราะคาดว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 จะยังไม่ดีขึ้น ทั้งการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน ประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย
ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4-5 สินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีจึงลดลง ดังนั้นการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงขึ้นอยู่กับการใช้งบประมาณของภาครัฐ แต่รัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการจึงทำให้มีข้อจำกัดในการใช้งบประมาณ