นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเกินดุลมากถึง 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจาก 2 ส่วน คือ ดุลการค้าที่เกินดุลมาก และดุลบริการที่กลับมาเกินดุล หลังจากขาดดุลตลอดช่วง 3 ไตรมาสก่อนหน้านี้ โดยดุลการค้าที่เกินดุลมาก ในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่มูลค่าการส่งออกทรงตัว การนำเข้าที่ลดลงมาจากสินค้าทุนหดตัวแรง สอดคล้องกับภาวะการลงทุนในประเทศที่ซบเซา และการนำเข้าทองคำลดลงจากปี 2556 ที่มีมูลค่าถึง 11,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่เมื่อช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ กลับไม่มีการนำเข้าสุทธิของทองคำ
อย่างไรก็ตาม แม้การนำเข้าวัตถุดิบจะหดตัว แต่ไม่ได้หดตัวเหมือนสินค้าทุนหรือทองคำ ซึ่งการนำเข้าวัตถุดิบในระดับนี้สอดคล้องกับการส่งออกที่ค่อยๆ ฟื้นตัว ส่วนดุลบริการที่กลับมาเกินดุล ส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของรายจ่ายส่งกลับในรูปของกำไรและปันผล สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ถือว่าไม่ได้ขยายตัวดี โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2555 ถึงต้นปี 2556
นางรุ่ง กล่าวว่า การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวช้า โดยเฉพาะการลงทุน แต่เมื่อใดที่การลงทุนกลับมา เชื่อว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะลดการเกินดุลลง ซึ่ง ธปท.ประมาณการดุลบัญชีเดินสะพัดปีนี้ไว้ราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ล่าสุดจากตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาสแรก ทำให้คาดว่าทั้งปีจะเกินดุลมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม แม้การนำเข้าวัตถุดิบจะหดตัว แต่ไม่ได้หดตัวเหมือนสินค้าทุนหรือทองคำ ซึ่งการนำเข้าวัตถุดิบในระดับนี้สอดคล้องกับการส่งออกที่ค่อยๆ ฟื้นตัว ส่วนดุลบริการที่กลับมาเกินดุล ส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของรายจ่ายส่งกลับในรูปของกำไรและปันผล สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ถือว่าไม่ได้ขยายตัวดี โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปี 2555 ถึงต้นปี 2556
นางรุ่ง กล่าวว่า การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวช้า โดยเฉพาะการลงทุน แต่เมื่อใดที่การลงทุนกลับมา เชื่อว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะลดการเกินดุลลง ซึ่ง ธปท.ประมาณการดุลบัญชีเดินสะพัดปีนี้ไว้ราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ล่าสุดจากตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาสแรก ทำให้คาดว่าทั้งปีจะเกินดุลมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้