นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Abhisit Vejjajiva ถึงข้อเสนอทางออกประเทศ ว่า การที่ตนเดินหน้านำเสนอ "แผนเดินหน้าประเทศไทย" นั้น ต้องขอขอบคุณประชาชนจำนวนมากที่ให้ความสนใจ ให้กำลังใจ และให้การสนับสนุนข้อเสนอของตน อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่า แผนนี้ยึดหลักกฎหมาย หลักประชาธิปไตย และประโยชน์ของประเทศ ไม่มีผลประโยชน์ของใคร ซึ่งรวมทั้งตนเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากสำเร็จบ้านเมืองก็จะสงบ ไม่มีนองเลือด ไม่มีปฏิวัติ ไม่นำสถาบันพระมหากษัตริย์และศาลเข้าสู่ความขัดแย้ง เพียงแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคณะ สละตำแหน่ง 5-6 เดือน เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่เรียบร้อย ส่วนกลุ่ม กปปส.ต้องยอมรับการได้การปฏิรูปด้วยวิธีที่ต่างจากที่ตนเสนอ
นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ตนจึงอยากให้ทุกคนที่ห่วงใยบ้านเมืองออกมาช่วยกันขับเคลื่อนการหาทางออกให้บ้านเมือง เพราะก่อนที่ตนเคลื่อนไหวเพื่อเสนอแนวทางนี้ มีหลายภาคส่วนที่มีเจตนาดีต่อบ้านเมือง อาทิ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย องค์กรเอกชน 7 องค์กร เครือข่าย"สองเอา สองไม่เอา" และองค์กรอิสระ 6 องค์กร เป็นต้น ได้เสนอความเห็นที่จะนำประเทศหลุดพ้นจากความขัดแย้ง แต่มักยุติการเคลื่อนไหวลงหลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายด้านตามมา ตนขอสื่อสารไปยังทุกองค์กรเหล่านั้นได้พิจารณาแผนทางออกประเทศไทย ว่าตรงกับแนวทางที่พวกเขาเห็นว่าเป็นทางออกให้กับประเทศหรือไม่ ถ้าเห็นว่าหลักการไม่มีปัญหา และไม่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ก็ขอให้ทุกคนแสดงออกเพื่อเป็นพลังทางสังคมเดินหน้าประเทศไทยร่วมกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แผนของตนย่อมได้รับการวิจารณ์ติติง ซึ่งตนรับฟังเสมอ แต่ตนอยากให้ผู้วิจารณ์เสนอทางออกที่ดีกว่าด้วย ส่วนคำวิจารณ์ที่อาจเห็นต่างกันในข้อกฎหมายนั้น ตนยืนยันว่าแผนดังกล่าวยึดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด และกรณีใดที่เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีบทบัญญัติ ก็ยึดตามเจตนารมณ์และประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้ประเทศเดินหน้าได้ โดยไม่มีการฉีกรัฐธรรมนูญ หรือการแช่แข็งประเทศอย่างแน่นอน
สำหรับบรรดานักการเมืองที่โจมตีนั้นตนไม่ขอตอบโต้ แต่รอข้อเสนอจากคนเหล่านั้นที่ไม่ใช่เรื่องเดิมๆ ที่พาประเทศมาอยู่จุดนี้ และถ้าเป็นข้อเสนอที่ตนไม่ได้ประโยชน์ ก็จะยิ่งดี
นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ตนจึงอยากให้ทุกคนที่ห่วงใยบ้านเมืองออกมาช่วยกันขับเคลื่อนการหาทางออกให้บ้านเมือง เพราะก่อนที่ตนเคลื่อนไหวเพื่อเสนอแนวทางนี้ มีหลายภาคส่วนที่มีเจตนาดีต่อบ้านเมือง อาทิ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย องค์กรเอกชน 7 องค์กร เครือข่าย"สองเอา สองไม่เอา" และองค์กรอิสระ 6 องค์กร เป็นต้น ได้เสนอความเห็นที่จะนำประเทศหลุดพ้นจากความขัดแย้ง แต่มักยุติการเคลื่อนไหวลงหลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายด้านตามมา ตนขอสื่อสารไปยังทุกองค์กรเหล่านั้นได้พิจารณาแผนทางออกประเทศไทย ว่าตรงกับแนวทางที่พวกเขาเห็นว่าเป็นทางออกให้กับประเทศหรือไม่ ถ้าเห็นว่าหลักการไม่มีปัญหา และไม่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ก็ขอให้ทุกคนแสดงออกเพื่อเป็นพลังทางสังคมเดินหน้าประเทศไทยร่วมกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แผนของตนย่อมได้รับการวิจารณ์ติติง ซึ่งตนรับฟังเสมอ แต่ตนอยากให้ผู้วิจารณ์เสนอทางออกที่ดีกว่าด้วย ส่วนคำวิจารณ์ที่อาจเห็นต่างกันในข้อกฎหมายนั้น ตนยืนยันว่าแผนดังกล่าวยึดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด และกรณีใดที่เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีบทบัญญัติ ก็ยึดตามเจตนารมณ์และประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้ประเทศเดินหน้าได้ โดยไม่มีการฉีกรัฐธรรมนูญ หรือการแช่แข็งประเทศอย่างแน่นอน
สำหรับบรรดานักการเมืองที่โจมตีนั้นตนไม่ขอตอบโต้ แต่รอข้อเสนอจากคนเหล่านั้นที่ไม่ใช่เรื่องเดิมๆ ที่พาประเทศมาอยู่จุดนี้ และถ้าเป็นข้อเสนอที่ตนไม่ได้ประโยชน์ ก็จะยิ่งดี