พื้นที่ป่าป่าพรุควนเคร็งกว่า 2 แสนไร่ กินพื้นที่ 5 อำเภอ จ.นครศรีธรรมราช วันนี้เริ่มพบไฟไหม้ป่าพรุเป็นจุดๆ กระจายในพื้นที่บ่อล้อ ชะอวด และเชียรใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงมี 50 จุด ที่คาดว่าอาจจะเกิดเป็นไฟป่าขั้นรุนแรง
ด้านนายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาถึงวันนี้ เกิดไฟไหม้ป่าพรุแล้ว 34 ครั้ง มีพื้นที่เสียหายรวม 600 ไร่ สาเหตุเป็นเพราะว่า สภาพอากาศในช่วงที่ผ่านมาหนาวนาน ทำให้ฝนทิ้งช่วง น้ำในป่าพรุลดลงกว่าเกณฑ์ถึง 24 เซนติเมตร ขณะนี้ได้เร่งซ่อมทำนบกั้นน้ำคลองสาขา ในป่าพรุ 38 แห่ง ให้แล้วเสร็จในสัปดาห์ พร้อมกับเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจทั้งทางบก และตามคลองสาขาในป่าพรุ เพื่อเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่กรมชลประทานเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 25 จุด ในพื้นที่ริมแม่น้ำปากพนัง เพื่อเติมน้ำเข้าไปในป่าพรุ นอกจากนี้ ยังมีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำงานร่วมกันแบบบูรณาการออกดับไฟ โดยไม่แยกพื้นที่รับผิดชอบเหมือนในอดีต
ทั้งนี้ยอมรับว่า ไฟไหม้ป่าพรุในปีนี้ อาจจะรุนแรงเท่ากับปี 2553 ซึ่งเกิดไฟไหม้มากถึง 330 ครั้ง เสียหายเกือบ 2 หมื่นไร่
ด้านนายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาถึงวันนี้ เกิดไฟไหม้ป่าพรุแล้ว 34 ครั้ง มีพื้นที่เสียหายรวม 600 ไร่ สาเหตุเป็นเพราะว่า สภาพอากาศในช่วงที่ผ่านมาหนาวนาน ทำให้ฝนทิ้งช่วง น้ำในป่าพรุลดลงกว่าเกณฑ์ถึง 24 เซนติเมตร ขณะนี้ได้เร่งซ่อมทำนบกั้นน้ำคลองสาขา ในป่าพรุ 38 แห่ง ให้แล้วเสร็จในสัปดาห์ พร้อมกับเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจทั้งทางบก และตามคลองสาขาในป่าพรุ เพื่อเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่กรมชลประทานเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 25 จุด ในพื้นที่ริมแม่น้ำปากพนัง เพื่อเติมน้ำเข้าไปในป่าพรุ นอกจากนี้ ยังมีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำงานร่วมกันแบบบูรณาการออกดับไฟ โดยไม่แยกพื้นที่รับผิดชอบเหมือนในอดีต
ทั้งนี้ยอมรับว่า ไฟไหม้ป่าพรุในปีนี้ อาจจะรุนแรงเท่ากับปี 2553 ซึ่งเกิดไฟไหม้มากถึง 330 ครั้ง เสียหายเกือบ 2 หมื่นไร่