นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำสำนวนการสอบสวนและหลักฐานต่างๆ 217 แฟ้ม จำนวน 57,514 หน้า พร้อมความเห็นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) พร้อมแกนนำชุดแรก รวม 58 คน ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง บุกรุกสถานที่ราชการ ขัดขวางการเลือกตั้ง และข้อหาอื่นๆ รวม 8 ข้อหา ส่งมอบให้นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นทางคดี
นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนร่วมกับพนักงานสอบสวน พร้อมทำแผนภูมิเพื่อดูความเชื่อมโยงและแยกกลุ่มความผิดของผู้ต้องหาทั้งหมด ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาจะทำให้เสร็จภายในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะครบกำหนดการฝากขังของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เนื่องจากถ้าครบกำหนดฝากขังแล้ว ผู้ต้องหาบางรายอาจจะติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ยาก วันพรุ่งนี้ (2 พ.ค.) จะเริ่มประชุมเพื่อพิจารณาสรุปแนวทางการสั่งคดี คาดจะมีความชัดเจนภายใน 5 พฤษภาคม จากนั้นจะดำเนินการพิจารณาสำนวนคดีร่วมกับพนักงานสอบสวนทันที หากอัยการมีความสั่งฟ้อง แต่ผู้ต้องหายังไม่มารายงานตัวก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการต้องติดตามตัวมาส่งฟ้องต่อไป
นายนันทศักดิ์ กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาสำนวนร่วมกับพนักงานสอบสวน พร้อมทำแผนภูมิเพื่อดูความเชื่อมโยงและแยกกลุ่มความผิดของผู้ต้องหาทั้งหมด ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาจะทำให้เสร็จภายในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะครบกำหนดการฝากขังของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เนื่องจากถ้าครบกำหนดฝากขังแล้ว ผู้ต้องหาบางรายอาจจะติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ยาก วันพรุ่งนี้ (2 พ.ค.) จะเริ่มประชุมเพื่อพิจารณาสรุปแนวทางการสั่งคดี คาดจะมีความชัดเจนภายใน 5 พฤษภาคม จากนั้นจะดำเนินการพิจารณาสำนวนคดีร่วมกับพนักงานสอบสวนทันที หากอัยการมีความสั่งฟ้อง แต่ผู้ต้องหายังไม่มารายงานตัวก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการต้องติดตามตัวมาส่งฟ้องต่อไป
