หลวงปู่พุทธะอิสระ แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) แจ้งวัฒนะ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลรักษาและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นพ้องเลือกตั้งใหม่วันที่ 20 กรกฎาคม ว่า ได้หารือกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เพื่อขอให้ขยายเวลาออกไปก่อน เพราะ กปปส.ไม่เห็นด้วยให้เลือกตั้งก่อนการปฏิรูปประเทศ และหากยังคงให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น กปปส.แจ้งวัฒนะ จะคัดค้านรุนแรง และอาจจะบุกเข้าไปภายในอาคารของหน่วยงานราชการแน่นอน เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก และอาจส่งผลให้เกิดความรุนแรงและประชาชนเสียชีวิต เพราะออกมาต่อต้าน
ส่วนแนวทางที่จะเดินทางไปวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อถวายคืนอำนาจต่อพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ขอดูท่าทีการชุมนุมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ในวันที่ 14 พฤษภาคม ว่า จะประสบความสำเร็จหรือไม่ หากไม่สำเร็จในวันที่ 16 พฤษภาคม จะนำมวลชนเดินทางไปวังไกลกังวลทันที เพื่อขอพระราชทานวินิจฉัยยับยั้งการออก พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งวันที่ 20 กรกฎาคม เพราะมั่นใจว่ารัฐบาลรักษาการจะหมดความชอบธรรม โดยศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบให้ คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสภาพก่อนที่จะเดินทางแน่นอน หากพระองค์มีพระราชวินิจฉัยอย่างไร กปปส.พร้อมยอมรับ รวมทั้งหากพระองค์ท่านให้ยุติการชุมนุมก็พร้อมจะปฏิบัติตาม ก่อนถึงวันที่จะตัดสินใจเดินทางไป อ.หัวหิน ก็จะไปรณรงค์เชิญชวนประชาชนใน จ.นครปฐม ในวันที่ 12 พฤษภาคม อีกด้วย
ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่า การกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ที่บุคคลมีสิทธิพิทักษ์ไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเว้นวรรคการเมืองหากทุกฝ่ายปฏิบัติตามแนวทางหาทางออกของประเทศว่า เป็นเรื่องที่ดีและตรงกับแนวทางที่ตัวเองเสนอก่อนหน้านี้ว่าทุกฝ่ายควรออกจากปัญหา โดยเฉพาะนักการเมือง และเปิดโอกาสให้ประชาชนมาตั้งกติกาเพื่อมาปฏิรูปประเทศด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านได้ปล่อยให้นักการเมืองกำหนดชะตาชีวิตของประชาชนคนไทยทั้งประเทศมานานเกินไปแล้ว
ส่วนแนวทางที่จะเดินทางไปวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อถวายคืนอำนาจต่อพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ขอดูท่าทีการชุมนุมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ในวันที่ 14 พฤษภาคม ว่า จะประสบความสำเร็จหรือไม่ หากไม่สำเร็จในวันที่ 16 พฤษภาคม จะนำมวลชนเดินทางไปวังไกลกังวลทันที เพื่อขอพระราชทานวินิจฉัยยับยั้งการออก พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งวันที่ 20 กรกฎาคม เพราะมั่นใจว่ารัฐบาลรักษาการจะหมดความชอบธรรม โดยศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบให้ คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสภาพก่อนที่จะเดินทางแน่นอน หากพระองค์มีพระราชวินิจฉัยอย่างไร กปปส.พร้อมยอมรับ รวมทั้งหากพระองค์ท่านให้ยุติการชุมนุมก็พร้อมจะปฏิบัติตาม ก่อนถึงวันที่จะตัดสินใจเดินทางไป อ.หัวหิน ก็จะไปรณรงค์เชิญชวนประชาชนใน จ.นครปฐม ในวันที่ 12 พฤษภาคม อีกด้วย
ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์ว่า การกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ที่บุคคลมีสิทธิพิทักษ์ไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเว้นวรรคการเมืองหากทุกฝ่ายปฏิบัติตามแนวทางหาทางออกของประเทศว่า เป็นเรื่องที่ดีและตรงกับแนวทางที่ตัวเองเสนอก่อนหน้านี้ว่าทุกฝ่ายควรออกจากปัญหา โดยเฉพาะนักการเมือง และเปิดโอกาสให้ประชาชนมาตั้งกติกาเพื่อมาปฏิรูปประเทศด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านได้ปล่อยให้นักการเมืองกำหนดชะตาชีวิตของประชาชนคนไทยทั้งประเทศมานานเกินไปแล้ว