นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานการบิน จัดโดยบริษัทวิทยุการบิน แห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ภาพรวมการเดินทางผ่านท่าอากาศยานดอนเมืองพบว่า มีปริมาณผู้โดยสารเดินทางภายในประเทศเพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ มีจำนวนผู้เดินทางเกือบ 50,000 คนต่อวัน ส่วนการเดินทางในเส้นทางบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์ เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ช่วงสงกรานต์มีจำนวนผู้เดินทางมากถึง 120,000 คน รถไฟ 9,000 คน และรถ บขส. 18,000 คน ปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินมีจำนวนมากกว่าที่เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางถึง 6 เท่า
ทั้งนี้ ปัจจุบันปริมาณการบินในเอเชียมีสัดส่วน 29 เปอร์เซ็นต์ เติบโตกว่าอเมริกาเหนือและยุโรป จากข้อมูลในปี 2554 อเมริกาเหนือ มีสัดส่วน 27 เปอร์เซ็นต์ ยุโรป 26 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าในปี 2558 จะมีปริมาณการบินในเอเชียจะเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ และเพื่อเตรียมตัวรองรับการเติบโตทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นจะต้องร่วมมือกันเพื่อเติบโตไปด้วยกัน โดยยึดถือประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งไทยยังมีโอกาสที่จะเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมต่อการบิน (HUB) ได้
นายชัชชาติ กล่าวว่า การที่ไทยจะเป็น HUB ของภูมิภาคได้หรือไม่ จำเป็นจะต้องกำหนดตัวชี้วัด (KPI) ให้ชัดเจน เพราะสิงคโปร์ประกาศเป็น HUB โดยดึงสายการบินขนาดใหญ่ไปใช้ฐานบินไปยุโรป ซึ่งในแง่ภูมิศาสตร์ของไทยจะเน้นเป็น HUB ในเรื่องการเชื่อมต่อเครื่องที่ใช้เวลาน้อย จากปัจจุบันใช้เวลาเฉลี่ย 90 นาที เป็น 45 นาที ได้ก็จะเป็นโอกาสที่ดี ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการและระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบินมูลค่า 1,700 ล้านบาท ช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการผู้โดยสารที่เปลี่ยนเที่ยวบินเหลือ 60 นาที ในระยะแรก
นอกจากนี้ จะต้องลดคอขวดทางห้วงอากาศ และเพิ่มขีดการรองรับของท่าอากาศยานเพื่อให้รับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันปริมาณการบินในเอเชียมีสัดส่วน 29 เปอร์เซ็นต์ เติบโตกว่าอเมริกาเหนือและยุโรป จากข้อมูลในปี 2554 อเมริกาเหนือ มีสัดส่วน 27 เปอร์เซ็นต์ ยุโรป 26 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าในปี 2558 จะมีปริมาณการบินในเอเชียจะเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ และเพื่อเตรียมตัวรองรับการเติบโตทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นจะต้องร่วมมือกันเพื่อเติบโตไปด้วยกัน โดยยึดถือประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งไทยยังมีโอกาสที่จะเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมต่อการบิน (HUB) ได้
นายชัชชาติ กล่าวว่า การที่ไทยจะเป็น HUB ของภูมิภาคได้หรือไม่ จำเป็นจะต้องกำหนดตัวชี้วัด (KPI) ให้ชัดเจน เพราะสิงคโปร์ประกาศเป็น HUB โดยดึงสายการบินขนาดใหญ่ไปใช้ฐานบินไปยุโรป ซึ่งในแง่ภูมิศาสตร์ของไทยจะเน้นเป็น HUB ในเรื่องการเชื่อมต่อเครื่องที่ใช้เวลาน้อย จากปัจจุบันใช้เวลาเฉลี่ย 90 นาที เป็น 45 นาที ได้ก็จะเป็นโอกาสที่ดี ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการและระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบินมูลค่า 1,700 ล้านบาท ช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการผู้โดยสารที่เปลี่ยนเที่ยวบินเหลือ 60 นาที ในระยะแรก
นอกจากนี้ จะต้องลดคอขวดทางห้วงอากาศ และเพิ่มขีดการรองรับของท่าอากาศยานเพื่อให้รับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น