นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกประชุมพรรคการเมืองวันที่ 22 เมษายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ว่า เป็นโอกาสในการหารือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์พัฒนาไปสู่ความขัดแย้งและการเผชิญหน้า โดยเห็นด้วยกับการที่ทุกฝ่ายควรใช้กลไกเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรูปแบบการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจไม่ใช่ในลักษณะแข่งขันทางนโยบาย แต่เป็นการเลือกตั้งเพื่อนำไปสู่รัฐบาลเฉพาะกิจเพื่อการปฏิรูปที่มีกำหนดระยะเวลาในการทำหน้าที่ประมาณ 1 ปี และเป็นรัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้านโดยทุกฝ่ายต้องทำความตกลงเป็นการร่วมกันที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการปฏิรูปเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พร้อมกันนี้เห็นว่าหากกำหนดเวลาในการเลือกตั้งใหม่ภายใน 90 วันจะทำให้มีระยะเวลาพอสมควรในการทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนด้วย
ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวย้ำว่า จากประสบการณ์ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับหลายฝ่ายทำให้ทุกฝ่ายเห็นว่าประเทศไทยต้องมีการปฏิรูปเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง หากสามารถหาจุดร่วมที่มีเป้าหมายไม่ใช่เพื่อช่วงชิงทางการเมืองของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เห็นถึงประโยชน์ที่ต้องถอยคนละก้าวเพื่อประเทศควรเริ่มทำในขณะที่ยังมีโอกาส เพราะหากปล่อยให้เลยช่วงเวลานี้แล้วอาจทำให้ทางออกน้อยขึ้น
ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวย้ำว่า จากประสบการณ์ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับหลายฝ่ายทำให้ทุกฝ่ายเห็นว่าประเทศไทยต้องมีการปฏิรูปเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง หากสามารถหาจุดร่วมที่มีเป้าหมายไม่ใช่เพื่อช่วงชิงทางการเมืองของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เห็นถึงประโยชน์ที่ต้องถอยคนละก้าวเพื่อประเทศควรเริ่มทำในขณะที่ยังมีโอกาส เพราะหากปล่อยให้เลยช่วงเวลานี้แล้วอาจทำให้ทางออกน้อยขึ้น