สำนักเลขาธิการวุฒิสภา และฝ่ายกฎหมาย ร่วมหารือตามการนัดหมายของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา ในประเด็นปัญหาการเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ เพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช หลังไม่สามารถทูลเกล้าฯ ถวายพระราชกฤษฎีกาขอเปิดประชุมในวันที่ 18 เมษายนได้
ก่อนหน้านี้ นายสุรชัย ยอมรับว่า จนถึงขณะนี้ยังมีความเห็นต่าง ระหว่างวุฒิสภาและคณะรัฐมนตรี ที่ยังคงยืนยันความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และย้ำว่า หากทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นต่าง จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ซึ่งทุกประเด็นปัญหาจะมีความชัดเจนแนวทางดำเนินการตามข้อกฎหมายหลังการหารือวันนี้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาและฝ่ายกฎหมาย ให้ความเห็นการขอเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 24 เมษายน 2557 ทดแทนวันที่ 18 เมษายน ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลา 30 วัน ที่กฎหมาย ป.ป.ช.บัญญัติ และเชื่อว่า แม้จะเกินกรอบ 20 วัน ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา จะไม่เป็นปัญหา
นายสุรชัย ยืนยันว่า การขอเปิดประชุมครั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้อร้องเรียนการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้ความมั่นใจกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาล ว่า จะไม่เสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ นายสุรชัย ยอมรับว่า จนถึงขณะนี้ยังมีความเห็นต่าง ระหว่างวุฒิสภาและคณะรัฐมนตรี ที่ยังคงยืนยันความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และย้ำว่า หากทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นต่าง จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ซึ่งทุกประเด็นปัญหาจะมีความชัดเจนแนวทางดำเนินการตามข้อกฎหมายหลังการหารือวันนี้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาและฝ่ายกฎหมาย ให้ความเห็นการขอเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ ในวันที่ 24 เมษายน 2557 ทดแทนวันที่ 18 เมษายน ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลา 30 วัน ที่กฎหมาย ป.ป.ช.บัญญัติ และเชื่อว่า แม้จะเกินกรอบ 20 วัน ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา จะไม่เป็นปัญหา
นายสุรชัย ยืนยันว่า การขอเปิดประชุมครั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้อร้องเรียนการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้ความมั่นใจกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาล ว่า จะไม่เสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน
