นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง พร้อมด้วย นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี คดีทุจริตรับจำนำข้าว เดินทางยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อขอให้เพิ่มพยานบุคคลอีก 2 คน ประกอบด้วย นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการกองนโยบาย และวางแผนงานการคลัง แทนและนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยเชื่อมั่นว่า จะเป็นพยานปากสำคัญที่จะหักล้างหลักฐานการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.สุภา ปิยจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว
ทนายความ ยืนยันว่า การเพิ่มขอพยานอย่างต่อเนื่องไม่ได้เป็นการยื้อเวลา แต่เป็นการแสวงหาโอกาสให้ความเป็นธรรมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และการที่ ป.ป.ช.อ้างเหตุผลในการตัดพยาน โดยระบุว่า มีข้อมูลเพียงพอแล้วนั้น ถือว่าเป็นการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ โดยหลักจากนี้จะมายื่นหนังสือคัดค้านมติของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 เมษายน กรณีตัดพยาน 3 ปาก โดยอนุญาตให้เพียง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวอีกครั้ง ซึ่งหาก ป.ป.ช.ยังคงเพิกเฉยต่อข้อเสนอ และตัดพยานของรักษาการนายกรัฐมนตรี จำเป็นจะต้องยื่นดำเนินคดีต่อศาลยุติธรรม
ทนายความ ยืนยันว่า การเพิ่มขอพยานอย่างต่อเนื่องไม่ได้เป็นการยื้อเวลา แต่เป็นการแสวงหาโอกาสให้ความเป็นธรรมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และการที่ ป.ป.ช.อ้างเหตุผลในการตัดพยาน โดยระบุว่า มีข้อมูลเพียงพอแล้วนั้น ถือว่าเป็นการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ โดยหลักจากนี้จะมายื่นหนังสือคัดค้านมติของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 เมษายน กรณีตัดพยาน 3 ปาก โดยอนุญาตให้เพียง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวอีกครั้ง ซึ่งหาก ป.ป.ช.ยังคงเพิกเฉยต่อข้อเสนอ และตัดพยานของรักษาการนายกรัฐมนตรี จำเป็นจะต้องยื่นดำเนินคดีต่อศาลยุติธรรม