พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้อำนวยการ ศอ.รส. ระบุว่า เหตุยิงชุดทหารหาข่าวเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย บริเวณ ถ.ราชดำเนิน ตรวจพบวิถีกระสุนมาจากแนวบังเกอร์ของกลุ่ม คปท. หากมีหลักฐานจำเป็นต้องเข้าตรวจค้นในพื้นที่ เบื้องต้นพบเป็นกระสุนปืนชนิด 9 มม.
ส่วนการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. และ กปปส. ในวันตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญนั้น พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ตำรวจจะนำแนวทางการรับมือการชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม ในวันที่ 5 นี้ ไปปรับใช้เพราะถือว่าการดูแลประสบความสำเร็จ ทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมยอมรับว่าหนักใจกรณีกลุ่ม กปปส. ไม่ให้ความร่วมมือตรวจค้นอาวุธ จึงเตรียมเสนอ ศอ.รส. ให้ทหารเข้ามาช่วยตรวจค้น เนื่องจาก กปปส. ให้ความไว้วางใจและยอมรับทหารมากกว่าตำรวจ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคการทำงานของตำรวจ เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าการชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม มีอาวุธ ซึ่ง ศอ.รส. ไม่ประมาท เพราะติดตามการชุมนุมอย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที
พล.ต.อ.วรพงษ์ ยังกล่าวถึงการดูแลสถานที่ท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ตำรวจมีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวอยู่แล้วโดยเฉพาะถนนข้าวสาร
ส่วนการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. และ กปปส. ในวันตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญนั้น พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ตำรวจจะนำแนวทางการรับมือการชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม ในวันที่ 5 นี้ ไปปรับใช้เพราะถือว่าการดูแลประสบความสำเร็จ ทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมยอมรับว่าหนักใจกรณีกลุ่ม กปปส. ไม่ให้ความร่วมมือตรวจค้นอาวุธ จึงเตรียมเสนอ ศอ.รส. ให้ทหารเข้ามาช่วยตรวจค้น เนื่องจาก กปปส. ให้ความไว้วางใจและยอมรับทหารมากกว่าตำรวจ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคการทำงานของตำรวจ เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าการชุมนุมทั้ง 2 กลุ่ม มีอาวุธ ซึ่ง ศอ.รส. ไม่ประมาท เพราะติดตามการชุมนุมอย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที
พล.ต.อ.วรพงษ์ ยังกล่าวถึงการดูแลสถานที่ท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ตำรวจมีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวอยู่แล้วโดยเฉพาะถนนข้าวสาร