ศาลอาญา รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดีที่ 907 ในคดีที่พนักงานอัยการสำนักอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือ สมชาย จูสนิท พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง จำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อปกปิดการกระทำความผิด
ศาลฯ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการอ่านคำพิพากษาทั้งหมด ซึ่งศาลฯ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำให้การของ พ.ต.ท.สุวิชัย แก้วผนึก พยานที่ระบุว่าเป็นผู้พบแหวนที่คาดว่า เป็นของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย หลังถูกฆาตกรรมนั้น ยังมีพิรุธหลายประการ ทั้งการนำแหวนซึ่งอ้างว่าได้มาจากการเผาทำลายศพ แต่กลับไม่มีการแจ้งผู้บังคับบัญชา และนำแหวนไปซ่อม และนำไปประกอบพิธีให้นายอัลรูไวลี ทั้งที่ พ.ต.ท.สุวิชัย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี จึงเสมือนว่าเป็นการสร้างพยานหลักฐานใหม่
ทั้งนี้ คำให้การของ พ.ต.ท.สุวิชัย เป็นเพียงบันทึกคำให้การ ไม่ได้มีการนำตัวมาสอบคำให้การ ดังนั้น พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอ ศาลฯ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลฯ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการอ่านคำพิพากษาทั้งหมด ซึ่งศาลฯ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำให้การของ พ.ต.ท.สุวิชัย แก้วผนึก พยานที่ระบุว่าเป็นผู้พบแหวนที่คาดว่า เป็นของนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย หลังถูกฆาตกรรมนั้น ยังมีพิรุธหลายประการ ทั้งการนำแหวนซึ่งอ้างว่าได้มาจากการเผาทำลายศพ แต่กลับไม่มีการแจ้งผู้บังคับบัญชา และนำแหวนไปซ่อม และนำไปประกอบพิธีให้นายอัลรูไวลี ทั้งที่ พ.ต.ท.สุวิชัย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี จึงเสมือนว่าเป็นการสร้างพยานหลักฐานใหม่
ทั้งนี้ คำให้การของ พ.ต.ท.สุวิชัย เป็นเพียงบันทึกคำให้การ ไม่ได้มีการนำตัวมาสอบคำให้การ ดังนั้น พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอ ศาลฯ จึงพิพากษายกฟ้อง