เมื่อเวลา 11.11 น. วันที่ 21 มีนาคม 2557 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปยังโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรีเป็นการส่วนพระองค์ ในการทอดพระเนตรโรงเลี้ยงโคนม ซึ่งดำเนินงานสนองพระราชดำริส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนมให้เกษตรกรที่สนใจ ปัจจุบันมีโคนมพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน หรือ ขาว-ดำ รวม 30 ตัว ประกอบด้วย โคนมรีดจำนวน 11 ตัว โคท้อง 14 ตัว และลูกโค 5 ตัว
ในการนี้ทรงป้อนนมโค และทรงป้อนหญ้าพันธุ์แทงโกล่าแก่ลูกโคเพศเมีย อายุ 2 เดือน 30 วัน จำนวน 2 ตัว ซึ่งเกษตรกรโคนม จังหวัดราชบุรี น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2557 เพื่อเลี้ยงเป็นโคสาวใช้ทดแทนฝูงปัจจุบัน มีน้ำหนักตัว 60 และ 65 กิโลกรัม พร้อมกันนี้ทอดพระเนตรการเจริญเติบโตของโคเพศผู้อายุ 4 เดือน ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า "น้องตุ่ม" เป็นลูกโคพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน หรือพันธุ์ขาว-ดำ มีแม่พันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน - มาดาวี คลอดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 ขณะนี้มีการเจริญเติบโตแข็งแรงดี มีน้ำหนักตัว 130 กิโลกรัม
โรงเลี้ยงโคนม โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2553 โดยนำโคนมปลดระวางจากโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา จำนวน 14 ตัวมาเลี้ยง เพื่อเป็นศูนย์สาธิตการเลี้ยงโคนมให้กับชาวจังหวัดเพชรบุรี และใกล้เคียง โดยมีเกษตรกรผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เข้ามาฝึกงานการเลี้ยงโคนมกับทางโครงการฯ ด้วย สำหรับการดูแลโคนมแรกคลอดถึง 3 เดือน จะให้น้ำนมโคเป็นอาหารหลักวันละ 4 ลิตร จำนวน 2 เวลา ส่วนโคนมอายุครบ 3 เดือนจะให้อาหารหยาบ โดยปล่อยให้แทะเล็มหญ้าสดในแปลง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงให้ความสำคัญกับลักษณะพันธุ์หญ้าที่โคกิน โดยทางโรงโคนม ได้เลือกหญ้าพันธุ์แพงโกล่า เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนการโปรตีนสูง เป็นพืชอาหารสัตว์ชั้นดีสำหรับโค ซึ่งการกินหญ้าสดส่งผลใหสุขภาพของโคแข็งแรงดี
โอกาสนี้ประทับรถยนต์พระที่นั่ง ทรงติดตามผลการดำเนินงานของโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีสภาพอากาศค่อนข้างแห้ง เนื่องจากไม่มีฝนตก อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียล โดยทางโครงการฯ ได้จัดทำแนวป้องกันไฟป่า ซึ่งเกิดขึ้นบ่อนในช่วงนี้ ทั้งบริเวณรอบรั้วภายในและภายนอกโครงการฯ สำหรับการปลูกยางพาราและยางนา ได้ใช้ระบบน้ำหยด เพื่อให้ความชื้นทำให้ต้นยางสามารถเติบโตได้และแข็งแรงดี ส่วนโรงเลี้ยงไก่ไข่ ปัจจุบันให้ผลผลิตลดลงเนื่องจากสภาพอากาศร้อน ทำให้ไก่ผลิตไข่ได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้ยังมีแปลงนาข้าว ซึ่งกรมกัฒนาที่ดินได้ดำเนินการปลุกข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่ อินทรีย์ และนาข้าวพันธุ์ กข.49 ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวในอีก 2 เดือนข้างหน้า
ในการนี้ทรงป้อนนมโค และทรงป้อนหญ้าพันธุ์แทงโกล่าแก่ลูกโคเพศเมีย อายุ 2 เดือน 30 วัน จำนวน 2 ตัว ซึ่งเกษตรกรโคนม จังหวัดราชบุรี น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2557 เพื่อเลี้ยงเป็นโคสาวใช้ทดแทนฝูงปัจจุบัน มีน้ำหนักตัว 60 และ 65 กิโลกรัม พร้อมกันนี้ทอดพระเนตรการเจริญเติบโตของโคเพศผู้อายุ 4 เดือน ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่า "น้องตุ่ม" เป็นลูกโคพันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน หรือพันธุ์ขาว-ดำ มีแม่พันธุ์โฮลสไตน์ฟรีเชียน - มาดาวี คลอดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 ขณะนี้มีการเจริญเติบโตแข็งแรงดี มีน้ำหนักตัว 130 กิโลกรัม
โรงเลี้ยงโคนม โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2553 โดยนำโคนมปลดระวางจากโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา จำนวน 14 ตัวมาเลี้ยง เพื่อเป็นศูนย์สาธิตการเลี้ยงโคนมให้กับชาวจังหวัดเพชรบุรี และใกล้เคียง โดยมีเกษตรกรผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เข้ามาฝึกงานการเลี้ยงโคนมกับทางโครงการฯ ด้วย สำหรับการดูแลโคนมแรกคลอดถึง 3 เดือน จะให้น้ำนมโคเป็นอาหารหลักวันละ 4 ลิตร จำนวน 2 เวลา ส่วนโคนมอายุครบ 3 เดือนจะให้อาหารหยาบ โดยปล่อยให้แทะเล็มหญ้าสดในแปลง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงให้ความสำคัญกับลักษณะพันธุ์หญ้าที่โคกิน โดยทางโรงโคนม ได้เลือกหญ้าพันธุ์แพงโกล่า เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนการโปรตีนสูง เป็นพืชอาหารสัตว์ชั้นดีสำหรับโค ซึ่งการกินหญ้าสดส่งผลใหสุขภาพของโคแข็งแรงดี
โอกาสนี้ประทับรถยนต์พระที่นั่ง ทรงติดตามผลการดำเนินงานของโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีสภาพอากาศค่อนข้างแห้ง เนื่องจากไม่มีฝนตก อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียล โดยทางโครงการฯ ได้จัดทำแนวป้องกันไฟป่า ซึ่งเกิดขึ้นบ่อนในช่วงนี้ ทั้งบริเวณรอบรั้วภายในและภายนอกโครงการฯ สำหรับการปลูกยางพาราและยางนา ได้ใช้ระบบน้ำหยด เพื่อให้ความชื้นทำให้ต้นยางสามารถเติบโตได้และแข็งแรงดี ส่วนโรงเลี้ยงไก่ไข่ ปัจจุบันให้ผลผลิตลดลงเนื่องจากสภาพอากาศร้อน ทำให้ไก่ผลิตไข่ได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้ยังมีแปลงนาข้าว ซึ่งกรมกัฒนาที่ดินได้ดำเนินการปลุกข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่ อินทรีย์ และนาข้าวพันธุ์ กข.49 ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวในอีก 2 เดือนข้างหน้า