เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ต.สมศักดิ์ สาคอ ร้อยเวร สภ.เมืองนราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตข้างสระน้ำในสวนยางพารา หลังโรงเรียนบ้านโคกแมแน หมู่ 3 ต.มะนังตายอ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเมตตาธรรมจำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่บนถนนริมสระน้ำ ทราบชื่อคือ นายบาฮากี เจ๊ะมะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 บ้านโคกแมแน หมู่ 3 ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด ที่บริเวณศีรษะ จำนวน 2 นัด และมีอีจู้ซึ่งเป็นอุปกรณ์จับและดักปลาไหลตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จำนวน 1 อัน
ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใดๆ ของคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเมตตาธรรมส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา ประมาณ 04.30 น. ผู้ตายซึ่งมีอาชีพจับปลาไหล ได้เดินทางออกจากบ้านพักเพื่อไปจับปลาไหลเป็นกิจวัตรประจำวัน และในระหว่างที่ผู้ตายกำลังนำอีจู้ไปตั้งไว้บริเวณขอบสระน้ำนั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ย่องเข้ามาทางด้านหลังผู้ตาย และใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงจ่อศีรษะผู้ตาย จำนวน 2 นัดซ้อน จนผู้ตายเสียชีวิตคาที่ ก่อนคนร้ายจะอาศัยความมืดหลบหนีไป
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ร้ายของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากผู้ตายไม่เคยมีประวัติและเรื่องขัดแย้งกับผู้ใดในพื้นที่
ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใดๆ ของคนร้าย เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเมตตาธรรมส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา ประมาณ 04.30 น. ผู้ตายซึ่งมีอาชีพจับปลาไหล ได้เดินทางออกจากบ้านพักเพื่อไปจับปลาไหลเป็นกิจวัตรประจำวัน และในระหว่างที่ผู้ตายกำลังนำอีจู้ไปตั้งไว้บริเวณขอบสระน้ำนั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้ย่องเข้ามาทางด้านหลังผู้ตาย และใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงจ่อศีรษะผู้ตาย จำนวน 2 นัดซ้อน จนผู้ตายเสียชีวิตคาที่ ก่อนคนร้ายจะอาศัยความมืดหลบหนีไป
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ร้ายของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เนื่องจากผู้ตายไม่เคยมีประวัติและเรื่องขัดแย้งกับผู้ใดในพื้นที่
