น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra เนื่องในวันสตรีสากล ย้ำการสร้างความเสมอภาคระหว่างหญิง-ชาย เพื่อโอกาสในการพัฒนาทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยระบุว่า
"วันนี้เป็นวันสตรีสากลค่ะ โดยในปีนี้องค์การสหประชาชาติได้กำหนดไว้ว่า "ความเท่าเทียมของผู้หญิงคือ ความก้าวหน้าของทุกคน" (Equality for Women is Progress for All) ด้วยจากบทเรียนในอดีต ทำให้นานาชาติได้เรียนรู้ร่วมกันว่า ความเท่าเทียมกันเป็นพื้นฐานที่เปิดโอกาสในการพัฒนา ในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง และผู้หญิงซึ่งเป็นประชากรครึ่งหนึ่งของโลกจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่นำความก้าวหน้าสู่มนุษยชาติได้ เมื่อมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมผู้ชาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ตระหนักมาตลอด ดังนั้นนับตั้งแต่ดิฉันได้แถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสตรีไทยให้มีพลังในการพัฒนาประเทศ โดยได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการพัฒนาศักยภาพสตรี ส่งเสริมให้ผู้หญิงทุกคนพัฒนาทักษะวิชาชีพเพื่อสร้างรายได้ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายสตรีให้เป็นปึกแผ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาชุมชนของตน และเป็นการสร้างความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง และเป็นเหยื่อของความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปกรพบว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งต่อสตรีที่เป็นสมาชิก และชุมชนที่สตรีเหล่านั้นอาศัยอยู่ ทั้งนี้กุญแจสำคัญของผลสำเร็จดังกล่าวอยู่ที่คณะกรรมการทั้งระดับตำบล และระดับจังหวัดที่มีความเสียสละ ทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างเข้มแข็ง
และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ระหว่างที่ดิฉันไปตรวจราชการติดตามงานที่จังหวัดมุกดาหารก็ได้พบกับประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด ทำให้ได้รับทราบว่า คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของจังหวัดมุกดาหารได้บริหารจัดการกองทุนอย่างดี โดยได้อนุมัติเงินทุนหมุนเวียนไปแล้วทั้งหมด 56 ล้านบาท เพื่อการประกอบอาชีพและสร้างรายได้เสริม ทั้งได้นำเงินอุดหนุนจำนวน 14 ล้านบาทไปใช้ในกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพ สร้างรายได้ ช่วยเหลือสตรีด้อยโอกาส และพัฒนาความเข้มแข็งของเครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่น่าชื่นชมคือ ในส่วนที่เป็นเงินทุนหมุนเวียนนั้นได้มีการส่งคืนอย่างต่อเนื่อง ทำให้สมาชิกคนอื่นๆ มีโอกาสกู้เงินเพื่อนำไปสร้างโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติม ซึ่งแนวทางการบริหารกองทุนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเช่นนี้ สะท้อนถึงความยั่งยืนในการพัฒนาต่อไปในอนาคต
อย่างที่ดิฉันได้กล่าวไว้เบื้องต้น การพัฒนาสตรี คือการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองโดยรวม ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชมว่า ในวันนี้สตรีไทยหลายคนใช้ความรู้ ความสามารถ ใช้โอกาสที่ได้รับมาการพัฒนาตนเอง และสังคมค่ะ อย่างไรก็ดี สตรีไทยยังต้องการโอกาสในการพัฒนาตนเอง รวมทั้งการดูแลปกป้องคุ้มครองทางสังคมในหลายด้าน ดังนั้น เพื่อความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ดิฉันขอเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ทุกเพศทุกวัย ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม มาร่วมมือร่วมใจกันสร้างความเท่าเทียมระหว่างหญิงชายให้เกิดขึ้น ทั้งเพื่อเป็นการพัฒนาประเทศไทยของเรา และเป็นส่วนหนึ่งของพลังที่จะพัฒนาร่วมกับนานาชาติทั่วโลกค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้สตรีไทยทุกคนค่ะ"
"วันนี้เป็นวันสตรีสากลค่ะ โดยในปีนี้องค์การสหประชาชาติได้กำหนดไว้ว่า "ความเท่าเทียมของผู้หญิงคือ ความก้าวหน้าของทุกคน" (Equality for Women is Progress for All) ด้วยจากบทเรียนในอดีต ทำให้นานาชาติได้เรียนรู้ร่วมกันว่า ความเท่าเทียมกันเป็นพื้นฐานที่เปิดโอกาสในการพัฒนา ในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง และผู้หญิงซึ่งเป็นประชากรครึ่งหนึ่งของโลกจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่นำความก้าวหน้าสู่มนุษยชาติได้ เมื่อมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมผู้ชาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ตระหนักมาตลอด ดังนั้นนับตั้งแต่ดิฉันได้แถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสตรีไทยให้มีพลังในการพัฒนาประเทศ โดยได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการพัฒนาศักยภาพสตรี ส่งเสริมให้ผู้หญิงทุกคนพัฒนาทักษะวิชาชีพเพื่อสร้างรายได้ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายสตรีให้เป็นปึกแผ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาชุมชนของตน และเป็นการสร้างความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ที่ถูกกดขี่ข่มเหง และเป็นเหยื่อของความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปกรพบว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งต่อสตรีที่เป็นสมาชิก และชุมชนที่สตรีเหล่านั้นอาศัยอยู่ ทั้งนี้กุญแจสำคัญของผลสำเร็จดังกล่าวอยู่ที่คณะกรรมการทั้งระดับตำบล และระดับจังหวัดที่มีความเสียสละ ทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างเข้มแข็ง
และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ระหว่างที่ดิฉันไปตรวจราชการติดตามงานที่จังหวัดมุกดาหารก็ได้พบกับประธานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด ทำให้ได้รับทราบว่า คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของจังหวัดมุกดาหารได้บริหารจัดการกองทุนอย่างดี โดยได้อนุมัติเงินทุนหมุนเวียนไปแล้วทั้งหมด 56 ล้านบาท เพื่อการประกอบอาชีพและสร้างรายได้เสริม ทั้งได้นำเงินอุดหนุนจำนวน 14 ล้านบาทไปใช้ในกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพ สร้างรายได้ ช่วยเหลือสตรีด้อยโอกาส และพัฒนาความเข้มแข็งของเครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่น่าชื่นชมคือ ในส่วนที่เป็นเงินทุนหมุนเวียนนั้นได้มีการส่งคืนอย่างต่อเนื่อง ทำให้สมาชิกคนอื่นๆ มีโอกาสกู้เงินเพื่อนำไปสร้างโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติม ซึ่งแนวทางการบริหารกองทุนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเช่นนี้ สะท้อนถึงความยั่งยืนในการพัฒนาต่อไปในอนาคต
อย่างที่ดิฉันได้กล่าวไว้เบื้องต้น การพัฒนาสตรี คือการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองโดยรวม ซึ่งเป็นที่น่าชื่นชมว่า ในวันนี้สตรีไทยหลายคนใช้ความรู้ ความสามารถ ใช้โอกาสที่ได้รับมาการพัฒนาตนเอง และสังคมค่ะ อย่างไรก็ดี สตรีไทยยังต้องการโอกาสในการพัฒนาตนเอง รวมทั้งการดูแลปกป้องคุ้มครองทางสังคมในหลายด้าน ดังนั้น เพื่อความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ดิฉันขอเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ทุกเพศทุกวัย ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม มาร่วมมือร่วมใจกันสร้างความเท่าเทียมระหว่างหญิงชายให้เกิดขึ้น ทั้งเพื่อเป็นการพัฒนาประเทศไทยของเรา และเป็นส่วนหนึ่งของพลังที่จะพัฒนาร่วมกับนานาชาติทั่วโลกค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้สตรีไทยทุกคนค่ะ"