นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ราคายางพาราเฉลี่ยในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 50-60 บาทกิโลกรัม โดยในช่วง 2-3 วัน ราคาขยับเล็กน้อยไปอยู่กิโลกรัมละ 65 บาท
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่ปกติราคายางพาราจะปรับเพิ่ม เนื่องจากเป็นช่วงปิดกรีดยาง ประกอบกับสต๊อกยางพาราในประเทศ 200,000 ตัน ที่ยังไม่ได้เปิดขายราคายางพาราน่าจะปรับขึ้นสูงได้มากกว่านี้
ดังนั้น นายยุคล จึงสั่งให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสต๊อกปริมาณที่แน่ชัด ทั้งปริมาณยางในประเทศ และปริมาณยางที่ส่งออก โดยเฉพาะที่ส่งออกไปยังประเทศจีน
นอกจากนี้ นายยุคล กล่าวด้วยว่า การส่งออกยางไปยังประเทศจีนจะมีในส่วนที่การซื้อขายแล้วเสร็จ และในส่วนที่ส่งออกไปตีราคาทำให้เป็นสต๊อกอยู่ในประเทศจีน จึงกดดันราคาตลาด
ทั้งนี้ ถ้าหากทราบปริมาณยางในตลาดที่แน่ชัดทั้งในประเทศ และที่ส่งออกไปยังจีน น่าจะช่วยดึงราคายางในตลาดได้ คาดว่าการตรวจสอบสต๊อกน่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า
ส่วนการจ่ายเงินปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกรชาวสวนยางที่ยังค้างจ่ายกว่า 4,000 ล้านบาท นายยุคล กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อเบิกจ่ายเงินเพิ่มเติมหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบพื้นที่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว แต่ไม่มั่นใจว่าการทยอยจ่ายเงินเกษตรกรกว่า 100,000 ราย จะแล้วเสร็จทันวันที่ 31 มีนาคมนี้ ตามที่เกษตรกรเรียกร้องหรือไม่
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่ปกติราคายางพาราจะปรับเพิ่ม เนื่องจากเป็นช่วงปิดกรีดยาง ประกอบกับสต๊อกยางพาราในประเทศ 200,000 ตัน ที่ยังไม่ได้เปิดขายราคายางพาราน่าจะปรับขึ้นสูงได้มากกว่านี้
ดังนั้น นายยุคล จึงสั่งให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสต๊อกปริมาณที่แน่ชัด ทั้งปริมาณยางในประเทศ และปริมาณยางที่ส่งออก โดยเฉพาะที่ส่งออกไปยังประเทศจีน
นอกจากนี้ นายยุคล กล่าวด้วยว่า การส่งออกยางไปยังประเทศจีนจะมีในส่วนที่การซื้อขายแล้วเสร็จ และในส่วนที่ส่งออกไปตีราคาทำให้เป็นสต๊อกอยู่ในประเทศจีน จึงกดดันราคาตลาด
ทั้งนี้ ถ้าหากทราบปริมาณยางในตลาดที่แน่ชัดทั้งในประเทศ และที่ส่งออกไปยังจีน น่าจะช่วยดึงราคายางในตลาดได้ คาดว่าการตรวจสอบสต๊อกน่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า
ส่วนการจ่ายเงินปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกรชาวสวนยางที่ยังค้างจ่ายกว่า 4,000 ล้านบาท นายยุคล กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ทำเรื่องไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อเบิกจ่ายเงินเพิ่มเติมหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบพื้นที่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว แต่ไม่มั่นใจว่าการทยอยจ่ายเงินเกษตรกรกว่า 100,000 ราย จะแล้วเสร็จทันวันที่ 31 มีนาคมนี้ ตามที่เกษตรกรเรียกร้องหรือไม่