น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศในระดับภูมิภาค จึงคาดการณ์ได้ว่า พายุฤดูร้อน และพายุลูกเห็บในปีนี้จะส่งผลกระบทต่อประเทศไทยเร็วกว่าปกติ โดยจะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมนี้ เป็นต้นไป ซึ่งพื้นที่เสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือพื้นที่ประสบภัยซ้ำซากในภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ดังนั้น จึงขอเตือนให้ประชาชนเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ทั้งการดูแลซ่อมแซมบ้านเรือนให้มีความแข็งแรง ตัดต้นไม้ใหญ่ที่อาจจะหักโค่นจากแรงพายุ รวมถึงเฝ้าระวังพืชผลทางการเกษตรไม่ให้ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ในการจัดอากาศยานขึ้นยิงพลุสารดูดความชื้นใต้ฐานเมฆ เพื่อเพิ่มจำนวนเม็ดฝน ลดความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานความร่วมมือกับกองทัพอากาศ ในการจัดอากาศยานขึ้นยิงพลุสารดูดความชื้นใต้ฐานเมฆ เพื่อเพิ่มจำนวนเม็ดฝน ลดความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บด้วย