เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี และทหาร เข้าตรวจสอบภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ปากซอยแจ้งวัฒนะ 24 ซึ่งอยู่ห่างจากเวทีชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) แจ้งวัฒนะ ประมาณ 300 เมตร หลังถูกคนร้ายใช้เครื่องยิงเอ็ม 79 ยิงลูกระเบิดขนาด 40 มิลลิเมตร เข้าใส่เมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา โดยแรงระเบิดทำให้พื้นปูนแตกเสียหาย ชิ้นส่วนระเบิดตกอยู่โดยรอบ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้าย
พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับอีโอดี เปิดเผยว่า ลักษณะการยิงคล้ายกับการก่อเหตุที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เมื่อคืนวานนี้ ส่วนทิศทางการยิงมาจากทิศเหนือเป็นวิถีโค้งห่างจากจุดเกิดเหตุ 400 เมตร เชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุบริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 10 โดยใช้เสาสัญญาณโทรศัพท์ใกล้ปั๊มน้ำมันเป็นศูนย์เล็งเป้า และมีเป้าหมายอยู่ที่แนวบังเกอร์การ์ด กปปส. แต่กระสุนพลาดเป้ามาตกลงในปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีคนอยู่ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 ตั้งแต่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และคนร้ายก่อเหตุโดยใช้เครื่องยิงเอ็ม 79
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 09.00น. วันนี้ (28 ก.พ.) เจ้าหน้าที่อีโอดีจะเดินทางเข้าตรวจสอบจุดที่คนร้ายก่อเหตุยิงระเบิดเข้าใส่ ศรส.อีกครั้ง หลังพบว่าข้อมูลบางส่วนเรื่องวิถีการยิงมีความขัดแย้งกัน
พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับอีโอดี เปิดเผยว่า ลักษณะการยิงคล้ายกับการก่อเหตุที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เมื่อคืนวานนี้ ส่วนทิศทางการยิงมาจากทิศเหนือเป็นวิถีโค้งห่างจากจุดเกิดเหตุ 400 เมตร เชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุบริเวณซอยแจ้งวัฒนะ 10 โดยใช้เสาสัญญาณโทรศัพท์ใกล้ปั๊มน้ำมันเป็นศูนย์เล็งเป้า และมีเป้าหมายอยู่ที่แนวบังเกอร์การ์ด กปปส. แต่กระสุนพลาดเป้ามาตกลงในปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีคนอยู่ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 ตั้งแต่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และคนร้ายก่อเหตุโดยใช้เครื่องยิงเอ็ม 79
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 09.00น. วันนี้ (28 ก.พ.) เจ้าหน้าที่อีโอดีจะเดินทางเข้าตรวจสอบจุดที่คนร้ายก่อเหตุยิงระเบิดเข้าใส่ ศรส.อีกครั้ง หลังพบว่าข้อมูลบางส่วนเรื่องวิถีการยิงมีความขัดแย้งกัน