น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่บิ๊กซี ราชดำริ และที่ จ.ตราด โดยขอประณามผู้ก่อเหตุดังกล่าว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น ซึ่งรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับประเทศไทยอีก จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่กำลังจะใช้ความรุนแรงยุติการกระทำ ซึ่งรัฐบาลพยายามดูแลด้านความมั่นคงด้วยความอดทน
ขณะเดียวกัน ยังเป็นห่วงคำวินิจฉัยของศาลแพ่งที่ทำให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต้องไปศึกษาคำวินิจฉัยดังกล่าว ว่าอะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพราะหากใช้กฎหมายที่รุนแรง ผลที่ตามมาก็คือความสูญเสียของประเทศ ดังนั้น จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะหันหน้ามาพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดการลงตัวโดยเร็วที่สุด
ส่วนที่เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยินดีเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างรัฐบาล กับผู้ชุมนุมนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รัฐบาลยินดี แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่คนกลาง แต่อยู่ที่ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน
ขณะเดียวกัน ยังเป็นห่วงคำวินิจฉัยของศาลแพ่งที่ทำให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต้องไปศึกษาคำวินิจฉัยดังกล่าว ว่าอะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพราะหากใช้กฎหมายที่รุนแรง ผลที่ตามมาก็คือความสูญเสียของประเทศ ดังนั้น จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะหันหน้ามาพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดการลงตัวโดยเร็วที่สุด
ส่วนที่เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยินดีเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างรัฐบาล กับผู้ชุมนุมนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รัฐบาลยินดี แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่คนกลาง แต่อยู่ที่ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน