นายประสาทศิลป์ อ่อนอรรถ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวว่า ตามที่เกิดสถานการณ์การเมืองในประเทศ ส่งผลกระทบลูกโซ่ ทำให้ยอดขายรถบรรทุกขนาดใหญ่ลดลงอย่างมาก มีรถค้างสต๊อกจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ลดการสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์จากผู้ผลิตถึงร้อยละ 70 ทำให้ผู้ผลิตชะงักตามไปด้วย
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กยังคงขายได้ แต่ต่ำกว่าประมาณการที่จัดทำไว้ในช่วงปลายปี 2556 ไว้บ้าง ซึ่งเดิมคาดว่าทั้งปี 2557 น่าจะมียอดประกอบรถรวม 2.7 ล้านคัน แต่ปัจจุบันคาดว่ายอดผลิตรถยนต์ในภาพรวมของประเทศไทย จะมียอดผลิตรวมไม่เกิน 2.55 ล้านคัน เท่าๆ กับปี 2556
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ปรับตัวรับสถานการณ์ และยังคงประคองธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่รายเล็กยังคงประสบปัญหาอยู่บ้าง ด้านการใช้กำลังการผลิต สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ คาดว่าน่าจะดีขึ้นประมาณไตรมาส 3 และไตรมาสที่ 4 โดยมูลค่าอุตสาหกรรมนี้ในภาพรวม จะมีมูลค่ารวมประมาณ 7 แสนล้านบาท
สำหรับปัญหาที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยในขณะนี้ คือ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ต้องใช้แรงงานต่างชาติเสริม โดยเฉพาะเอสเอ็มอี
ส่วนการเข้ามาลงทุนของเอสเอ็มอี ส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มอีไทย เพราะนักลงทุนญี่ปุ่นจะเลือกสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทญี่ปุ่นด้วยกันเอง
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กยังคงขายได้ แต่ต่ำกว่าประมาณการที่จัดทำไว้ในช่วงปลายปี 2556 ไว้บ้าง ซึ่งเดิมคาดว่าทั้งปี 2557 น่าจะมียอดประกอบรถรวม 2.7 ล้านคัน แต่ปัจจุบันคาดว่ายอดผลิตรถยนต์ในภาพรวมของประเทศไทย จะมียอดผลิตรวมไม่เกิน 2.55 ล้านคัน เท่าๆ กับปี 2556
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ปรับตัวรับสถานการณ์ และยังคงประคองธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่รายเล็กยังคงประสบปัญหาอยู่บ้าง ด้านการใช้กำลังการผลิต สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ คาดว่าน่าจะดีขึ้นประมาณไตรมาส 3 และไตรมาสที่ 4 โดยมูลค่าอุตสาหกรรมนี้ในภาพรวม จะมีมูลค่ารวมประมาณ 7 แสนล้านบาท
สำหรับปัญหาที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยต้องเผชิญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยในขณะนี้ คือ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ต้องใช้แรงงานต่างชาติเสริม โดยเฉพาะเอสเอ็มอี
ส่วนการเข้ามาลงทุนของเอสเอ็มอี ส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มอีไทย เพราะนักลงทุนญี่ปุ่นจะเลือกสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทญี่ปุ่นด้วยกันเอง
