นายยรรยง พวงราช รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ติดตามราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อแสดงความเชื่อมั่นว่า แม้จะมีปัญหาทางการเมือง แต่ระบบการค้ายังคงเป็นไปตามปกติ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่คาดว่าจะมีการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนตามปกติ ส่วนในเขตกรุงเทพมหานครอาจจะแผ่วไปบ้าง เนื่องจากผลกระทบทางเมือง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการห้างค้าปลีกต่างๆ ให้ช่วยดูแลปริมาณสินค้าให้มีเพียงพอต่อการบริโภค และกำหนดราคาจำหน่ายอย่างเหมาะสม ซึ่งโชคดีที่ในช่วงนี้สภาพอากาศเย็นต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตผักใบออกมาก ตรุษจีนปีนี้ ราคาผักใบส่วนใหญ่ จึงถูกกว่าปีก่อน เช่น ผักกาดหอมราคากิโลกรัมละ 12 - 15 บาท จากปีก่อนอยู่ที่ 15 - 18 บาท กะหล่ำปลี กิโลกรัมละ 10 - 12 บาท จากปีก่อน 20 - 22บาท และกวางตุ้งกิโลกรัมละ 12 - 15 บาท จากปีก่อนกิโลกรัมละ 20 - 22 บาท มีเพียงคะน้าที่ราคาสูงขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 15 - 18 บาท จากปีก่อนราคากิโลกรัมละ 12 - 15 บาท ส่วนผลไม้ที่ใช้ในเทศกาลตรุษจีน เช่น ส้ม แอปเปิ้ล สาลี่ และทับทิม ราคาก็ลดลงจากช่วงตรุษจีนปี 56 เช่นกัน
ในส่วนของกลุ่มอาหารสด ส่วนใหญ่ราคาลดลง มีเพียงเนื้อหมูที่ราคาสูงขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากมีความต้องการนำไปใช้ไหว้เจ้าในช่วงตรุษจีนมากขึ้น ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือไปทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ให้ตรึงราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มไม่เกินกิโลกรัมละ 75 บาท ซึ่งจะมีผลให้ราคาจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดงที่หน้าเขียงจะไม่เกิน 150 บาทต่อกิโลกรัม โดยในบางจังหวัดอาจจะราคาสูงกว่านี้เล็กน้อย เนื่องจากมีต้นทุนในการขนส่งเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการห้างค้าปลีกต่างๆ ให้ช่วยดูแลปริมาณสินค้าให้มีเพียงพอต่อการบริโภค และกำหนดราคาจำหน่ายอย่างเหมาะสม ซึ่งโชคดีที่ในช่วงนี้สภาพอากาศเย็นต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตผักใบออกมาก ตรุษจีนปีนี้ ราคาผักใบส่วนใหญ่ จึงถูกกว่าปีก่อน เช่น ผักกาดหอมราคากิโลกรัมละ 12 - 15 บาท จากปีก่อนอยู่ที่ 15 - 18 บาท กะหล่ำปลี กิโลกรัมละ 10 - 12 บาท จากปีก่อน 20 - 22บาท และกวางตุ้งกิโลกรัมละ 12 - 15 บาท จากปีก่อนกิโลกรัมละ 20 - 22 บาท มีเพียงคะน้าที่ราคาสูงขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 15 - 18 บาท จากปีก่อนราคากิโลกรัมละ 12 - 15 บาท ส่วนผลไม้ที่ใช้ในเทศกาลตรุษจีน เช่น ส้ม แอปเปิ้ล สาลี่ และทับทิม ราคาก็ลดลงจากช่วงตรุษจีนปี 56 เช่นกัน
ในส่วนของกลุ่มอาหารสด ส่วนใหญ่ราคาลดลง มีเพียงเนื้อหมูที่ราคาสูงขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากมีความต้องการนำไปใช้ไหว้เจ้าในช่วงตรุษจีนมากขึ้น ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือไปทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ให้ตรึงราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มไม่เกินกิโลกรัมละ 75 บาท ซึ่งจะมีผลให้ราคาจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดงที่หน้าเขียงจะไม่เกิน 150 บาทต่อกิโลกรัม โดยในบางจังหวัดอาจจะราคาสูงกว่านี้เล็กน้อย เนื่องจากมีต้นทุนในการขนส่งเพิ่มขึ้น
