บรรยากาศโรงสีในหลายแห่งในอำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งเป็นโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับรักษาการรัฐบาลฤดูกาลผลิตปี 2556/2557 ยังคงเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกลุ่มเกษตกรชาวนาซึ่งเก็บเกี่ยวผลผลิตในฤดูนาปรังครั้งที่ 1 ได้นำข้าวเปลือกมาใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว โดยเป็นการใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวถึงร้อยละ 50 ของปริมาณผลผลิต ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 ขายให้กับผู้ประกอบการโรงสี เพื่อรับเป็นเงินสด แม้จะได้ราคาต่ำกว่าการรับจำนำเฉลี่ยตันละ 3,000-4,000 บาท
ทั้งนี้ จะได้รับเงินสดทันทีที่ขายข้าวเปลือก ทำให้ผู้ประกอบการโรงสีต้องสำรองเงินสดเฉลี่ยวันละ 5,000,000 บาท เพื่อไว้จ่ายให้กับเกษตรกรชาวนาที่นำข้าวเปลือกมาขายแล้วก็รับเงินสด
นายวีรชัย ทับทิม หนึ่งในเกษตกรชาวนาอำเมืองพิจิตร กล่าวว่า สาเหตุที่แบ่งผลผลิตข้าวเปลือกส่วนหนึ่งมาขาย และรับเงินสดกับโรงสี เพราะว่าต้องนำเงินสดไปจ่ายหนี้สิน ทั้งค่าเมล็ดพันธ์ข้าว ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน ค่ารถเกี่ยวข้าว และลงทุนทำนารอบใหม่ต่อไป โดยไม่ต้องรอเงินที่จะได้จากโครงการรับจำนำข้าวที่ใช้ระยะเวลานานหลายเดือนกว่าจะได้รับเงิน
ทั้งนี้ จะได้รับเงินสดทันทีที่ขายข้าวเปลือก ทำให้ผู้ประกอบการโรงสีต้องสำรองเงินสดเฉลี่ยวันละ 5,000,000 บาท เพื่อไว้จ่ายให้กับเกษตรกรชาวนาที่นำข้าวเปลือกมาขายแล้วก็รับเงินสด
นายวีรชัย ทับทิม หนึ่งในเกษตกรชาวนาอำเมืองพิจิตร กล่าวว่า สาเหตุที่แบ่งผลผลิตข้าวเปลือกส่วนหนึ่งมาขาย และรับเงินสดกับโรงสี เพราะว่าต้องนำเงินสดไปจ่ายหนี้สิน ทั้งค่าเมล็ดพันธ์ข้าว ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน ค่ารถเกี่ยวข้าว และลงทุนทำนารอบใหม่ต่อไป โดยไม่ต้องรอเงินที่จะได้จากโครงการรับจำนำข้าวที่ใช้ระยะเวลานานหลายเดือนกว่าจะได้รับเงิน