ประธานาธิบดีวิคตอร์ ยานูคอวิช ของยูเครน เตือนว่า เหตุปะทะนองเลือดระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับตำรวจเป็นการคุกคามต่อประเทศ หลังเกิดเหตุรุนแรงครั้งใหม่ในกรุงเคียฟ
เหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลกับตำรวจเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังการปะทะกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน ท่ามกลางความไม่พอใจที่ประธานาธิบดียานูคอวิช ออกกฎหมายฉบับใหม่จำกัดการประท้วง ซึ่งห้ามผู้ชุมนุมสวมหมวกนิรภัยและหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา หลังประชาชนไม่พอใจที่เขาปฏิเสธลงนามข้อตกลงกับทางเศรษฐกิจกับสหภาพยุโรป ซึ่งการประท้วงได้ยืดเยื้อมา 2 เดือนแล้ว
ประธานาธิบดียานูคอวิช เตือนให้ผู้ประท้วงยุติการก่อเหตุจลาจล เพราะถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อประเทศ หลังผู้ประท้วงหลายพันคนฝ่าอุณหภูมิที่หนาวเย็นถึงลบ 10 องศาเซลเซียส จนเกิดการเผชิญหน้ากับตำรวจ จุดหนึ่งของการปะทะคือที่ด้านนอกสนามฟุตบอลไดนาโม เคียฟ ผู้ประท้วงได้ขว้างระเบิดเพลิงและดอกไม้ไฟไปยังพื้นที่แนวไร้ผู้คน ซึ่งกั้นระหว่างพวกเขากับตำรวจ จึงถูกตอบโต้ด้วยระเบิด กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการที่ประกอบด้วยตัวแทนจากทุกฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และกลุ่มผู้ประท้วง เข้าร่วมการหารือยุติวิกฤติการณ์ ซึ่งผู้นำฝ่ายค้านเตือนรัฐบาลว่า หากยังหาทางออกไม่ได้ก็อาจเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น และว่า การเจรจาครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการซื้อเวลาของรัฐบาลเท่านั้น ข้อเรียกร้องของฝ่ายค้านคือ รัฐบาลของประธานาธิบดียานูคอวิช ต้องลาออกและจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่
ขณะที่ฝ่ายค้านเองกำลังถูกกดดันให้นำเสนอแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศให้ชัดเจนกว่านี้ หลังข้อเรียกร้องของกลุ่มฝ่ายค้านและผู้ประท้วงลุกลามไปถึงเรื่องการคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบของรัฐบาลด้วย
เหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลกับตำรวจเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังการปะทะกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 200 คน ท่ามกลางความไม่พอใจที่ประธานาธิบดียานูคอวิช ออกกฎหมายฉบับใหม่จำกัดการประท้วง ซึ่งห้ามผู้ชุมนุมสวมหมวกนิรภัยและหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา หลังประชาชนไม่พอใจที่เขาปฏิเสธลงนามข้อตกลงกับทางเศรษฐกิจกับสหภาพยุโรป ซึ่งการประท้วงได้ยืดเยื้อมา 2 เดือนแล้ว
ประธานาธิบดียานูคอวิช เตือนให้ผู้ประท้วงยุติการก่อเหตุจลาจล เพราะถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อประเทศ หลังผู้ประท้วงหลายพันคนฝ่าอุณหภูมิที่หนาวเย็นถึงลบ 10 องศาเซลเซียส จนเกิดการเผชิญหน้ากับตำรวจ จุดหนึ่งของการปะทะคือที่ด้านนอกสนามฟุตบอลไดนาโม เคียฟ ผู้ประท้วงได้ขว้างระเบิดเพลิงและดอกไม้ไฟไปยังพื้นที่แนวไร้ผู้คน ซึ่งกั้นระหว่างพวกเขากับตำรวจ จึงถูกตอบโต้ด้วยระเบิด กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการที่ประกอบด้วยตัวแทนจากทุกฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และกลุ่มผู้ประท้วง เข้าร่วมการหารือยุติวิกฤติการณ์ ซึ่งผู้นำฝ่ายค้านเตือนรัฐบาลว่า หากยังหาทางออกไม่ได้ก็อาจเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น และว่า การเจรจาครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการซื้อเวลาของรัฐบาลเท่านั้น ข้อเรียกร้องของฝ่ายค้านคือ รัฐบาลของประธานาธิบดียานูคอวิช ต้องลาออกและจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่
ขณะที่ฝ่ายค้านเองกำลังถูกกดดันให้นำเสนอแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศให้ชัดเจนกว่านี้ หลังข้อเรียกร้องของกลุ่มฝ่ายค้านและผู้ประท้วงลุกลามไปถึงเรื่องการคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบของรัฐบาลด้วย
