นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย (นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ) และอดีตอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดกรณีทุจริตการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ เมื่อปี 2552 ว่า ตนจะขอต่อสู้ถึงที่สุดในชั้นศาลเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เพราะการสอบสวนไต่สวนของ ป.ป.ช.ทำโดยมิชอบมีวาระซ่อนเร้น และไม่ให้ความเป็นธรรมกับตน เนื่องจากเรื่องนี้เหตุเกิดจากมีกรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่ง ได้มาขอฝากลูกตัวเองเข้าโรงเรียนนายอำเภอกับตน แต่ตนให้ไม่ได้เขาก็เลยโกรธแค้นเป็นการส่วนตัว
ต่อมามีการไปยื่นเรื่องให้ตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อให้ตรวจสอบฝ่ายการเมืองในช่วงนั้นที่ดูแลกระทรวงมหาดไทย แล้วปรากฏว่ารัฐมนตรีมหาดไทยตอนนั้นก็ตั้งภรรยาเป็นกรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่ง ขึ้นมาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดจึงแสดงให้เห็นแล้วว่า การสอบสวนของ ป.ป.ช.ไม่ชอบ อนุกรรมการสอบสวนของ ป.ป.ช.มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง
นายวงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า ตนจะนำข้อเท็จจริงทั้งหมดเปิดแถลงข่าวต่อสื่อใน 1-2 วันนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการชี้มูลของ ป.ป.ช.ไม่ชอบอย่างไร มีอะไรซ่อนเร้นปิดบังอยู่ โดยตนมีข้อเท็จจริงทั้งหมด เหตุมาเกิดเพราะเขามาขอฝากลูกชายแล้วตนทำให้ไม่ได้ แล้วการสอบ ป.ป.ช.ก็ไม่ไปสอบเอาผิดนักการเมือง แต่กลับมาสอบกับข้าราชการแบบนี้ตนก็ต้องสู้ถึงที่สุด
ต่อมามีการไปยื่นเรื่องให้ตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อให้ตรวจสอบฝ่ายการเมืองในช่วงนั้นที่ดูแลกระทรวงมหาดไทย แล้วปรากฏว่ารัฐมนตรีมหาดไทยตอนนั้นก็ตั้งภรรยาเป็นกรรมการ ป.ป.ช.คนหนึ่ง ขึ้นมาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดจึงแสดงให้เห็นแล้วว่า การสอบสวนของ ป.ป.ช.ไม่ชอบ อนุกรรมการสอบสวนของ ป.ป.ช.มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง
นายวงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า ตนจะนำข้อเท็จจริงทั้งหมดเปิดแถลงข่าวต่อสื่อใน 1-2 วันนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการชี้มูลของ ป.ป.ช.ไม่ชอบอย่างไร มีอะไรซ่อนเร้นปิดบังอยู่ โดยตนมีข้อเท็จจริงทั้งหมด เหตุมาเกิดเพราะเขามาขอฝากลูกชายแล้วตนทำให้ไม่ได้ แล้วการสอบ ป.ป.ช.ก็ไม่ไปสอบเอาผิดนักการเมือง แต่กลับมาสอบกับข้าราชการแบบนี้ตนก็ต้องสู้ถึงที่สุด