อเมริกาประกาศอัดฉีดความช่วยเหลือ 40 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้กองกำลังความมั่นคงของฟิลิปปินส์สามารถปกป้องน่านน้ำของตนเองที่กำลังเป็นประเด็นพิพาทกับจีน นอกจากนี้จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังปรามปักกิ่งไม่ให้ใช้มาตรการตามอำเภอใจประกาศเขตป้องกันภัยทางอากาศในทะเลจีนใต้
เคร์รีแจกแจงเมื่อวันอังคาร (17) ระหว่างเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ว่า เงินดังกล่าวที่มาจากกองทุนฉุกเฉินเพื่อความมั่นคงทั่วโลก จะจัดสรรให้ภายในเวลา 3 ปีและแบ่งออกเป็นทุนสนับสนุนการปรับปรุงความสามารถในการรักษาความมั่นคงทางทะเลของหน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ และการเพิ่มศักยภาพการต่อต้านการก่อการร้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแดนตากาล็อกในหมู่เกาะทางใต้ที่แข็งข้อ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่วอชิงตันสนับสนุนแคมเปญต่อต้านกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นที่มีสายสัมพันธ์กับเครือข่ายอัล-กออิดะห์
เงินอัดฉีดก้อนใหม่นี้เป็นการเติมเต็มมาตรการช่วยเหลือมูลค่า 32.5 ล้านดอลลาร์ที่เคร์รีประกาศในวันจันทร์ (16) ที่เวียดนาม ซึ่งจะช่วยให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2 แห่งนี้ปกป้องน่านน้ำของตนเอง โดยในส่วนฮานอยนั้นได้รับเงิน 18 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดซื้อเรือตรวจการณ์เร็วให้หน่วยยามฝั่ง
ทั้งเวียดนามและฟิลิปปินส์ต่างมีข้อพิพาทด้านอธิปไตยในทะเลจีนใต้กับจีน และกังวลกับการที่พญามังกรลุกขึ้นมาอ้างสิทธิ์หนักข้อขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ปักกิ่งประกาศเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่นรุนแรงยิ่งขึ้น
“สหรัฐฯ ไม่ยอมรับเขตป้องกันภัยดังกล่าว และจีนควรละเว้นจากการใช้มาตรการตามอำเภอใจในลักษณะเดียวกันนี้ในบริเวณอื่นๆ โดยเฉพาะทะเลจีนใต้” เคร์รีกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับอัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนตากาล็อกที่สำทับว่า การกระทำดังกล่าวจะเท่ากับว่า ปักกิ่งพยายามแปลงเขตป้องกันภัยทางอากาศ ให้เป็นน่านฟ้าของตน อันจะบั่นทอนเสรีภาพในการบินของการบินพลเรือน รวมทั้งความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศที่ได้รับผลกระทบ
เคร์รีสำทับว่า อเมริกาจะอยู่เคียงข้างพันธมิตรในเอเชีย-แปซิฟิก และคัดค้านการใช้การข่มขู่หรือความก้าวร้าวเพื่อส่งเสริมการกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของตนเอง แต่เห็นควรให้มีการเจรจาเพื่อแก้ไขข้อพิพาทแทน
เคร์รีแจกแจงเมื่อวันอังคาร (17) ระหว่างเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ว่า เงินดังกล่าวที่มาจากกองทุนฉุกเฉินเพื่อความมั่นคงทั่วโลก จะจัดสรรให้ภายในเวลา 3 ปีและแบ่งออกเป็นทุนสนับสนุนการปรับปรุงความสามารถในการรักษาความมั่นคงทางทะเลของหน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ และการเพิ่มศักยภาพการต่อต้านการก่อการร้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแดนตากาล็อกในหมู่เกาะทางใต้ที่แข็งข้อ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่วอชิงตันสนับสนุนแคมเปญต่อต้านกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นที่มีสายสัมพันธ์กับเครือข่ายอัล-กออิดะห์
เงินอัดฉีดก้อนใหม่นี้เป็นการเติมเต็มมาตรการช่วยเหลือมูลค่า 32.5 ล้านดอลลาร์ที่เคร์รีประกาศในวันจันทร์ (16) ที่เวียดนาม ซึ่งจะช่วยให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2 แห่งนี้ปกป้องน่านน้ำของตนเอง โดยในส่วนฮานอยนั้นได้รับเงิน 18 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดซื้อเรือตรวจการณ์เร็วให้หน่วยยามฝั่ง
ทั้งเวียดนามและฟิลิปปินส์ต่างมีข้อพิพาทด้านอธิปไตยในทะเลจีนใต้กับจีน และกังวลกับการที่พญามังกรลุกขึ้นมาอ้างสิทธิ์หนักข้อขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ปักกิ่งประกาศเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่นรุนแรงยิ่งขึ้น
“สหรัฐฯ ไม่ยอมรับเขตป้องกันภัยดังกล่าว และจีนควรละเว้นจากการใช้มาตรการตามอำเภอใจในลักษณะเดียวกันนี้ในบริเวณอื่นๆ โดยเฉพาะทะเลจีนใต้” เคร์รีกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับอัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนตากาล็อกที่สำทับว่า การกระทำดังกล่าวจะเท่ากับว่า ปักกิ่งพยายามแปลงเขตป้องกันภัยทางอากาศ ให้เป็นน่านฟ้าของตน อันจะบั่นทอนเสรีภาพในการบินของการบินพลเรือน รวมทั้งความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศที่ได้รับผลกระทบ
เคร์รีสำทับว่า อเมริกาจะอยู่เคียงข้างพันธมิตรในเอเชีย-แปซิฟิก และคัดค้านการใช้การข่มขู่หรือความก้าวร้าวเพื่อส่งเสริมการกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของตนเอง แต่เห็นควรให้มีการเจรจาเพื่อแก้ไขข้อพิพาทแทน