นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ออกมาแสดงความเห็น รวมถึงมีท่าทีเป็นไปในทิศทางสนับสนุนแนวทางของรัฐบาลคือ ต้องการให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปีหน้า และพร้อมสนับสนุนกำลังพลของกองทัพอำนวยความสะดวกสำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้
นายเอกนัฏ ระบุว่า แกนนำ กปปส.ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เนื่องจากมองว่า ความเห็นของ พล.อ.นิพัทธ์ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่พูดในนามกองทัพ จึงอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ทำให้กองทัพเสียหาย อีกทั้งแนวคิดดังกล่าวไม่เป็นไปตามจุดยืนของผู้นำเหล่าทัพที่บอกว่า จะวางตัวเป็นกลางตามที่ได้กล่าวไว้ในเวทีหารือร่วมกับแกนนำ กปปส.ก่อนหน้านี้ ดังนั้นแกนนำ กปปส.จึงมีมติเห็นว่า กองทัพควรจะวางตัวเป็นกลาง และไม่ต้องการให้กองทัพมีส่วนร่วมในการทวงคืนอำนาจ หรือเข้าไปเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยยังคงเน้นย้ำว่า กปปส.ไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง เพียงแต่เห็นว่า หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในระหว่างนี้ จะเป็นการสร้างปัญหาเพิ่มเติม และเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ
ดังนั้น การปฏิรูปประเทศจึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ โดยมีสภาประชาชนเป็นผู้วางรากฐาน จากนั้นจะคืนอำนาจไปสู่การเลือกตั้งไประบอบประชาธิปไตยต่อไป
นายเอกนัฏ ระบุว่า แกนนำ กปปส.ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เนื่องจากมองว่า ความเห็นของ พล.อ.นิพัทธ์ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่พูดในนามกองทัพ จึงอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ทำให้กองทัพเสียหาย อีกทั้งแนวคิดดังกล่าวไม่เป็นไปตามจุดยืนของผู้นำเหล่าทัพที่บอกว่า จะวางตัวเป็นกลางตามที่ได้กล่าวไว้ในเวทีหารือร่วมกับแกนนำ กปปส.ก่อนหน้านี้ ดังนั้นแกนนำ กปปส.จึงมีมติเห็นว่า กองทัพควรจะวางตัวเป็นกลาง และไม่ต้องการให้กองทัพมีส่วนร่วมในการทวงคืนอำนาจ หรือเข้าไปเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยยังคงเน้นย้ำว่า กปปส.ไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง เพียงแต่เห็นว่า หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในระหว่างนี้ จะเป็นการสร้างปัญหาเพิ่มเติม และเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ
ดังนั้น การปฏิรูปประเทศจึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ โดยมีสภาประชาชนเป็นผู้วางรากฐาน จากนั้นจะคืนอำนาจไปสู่การเลือกตั้งไประบอบประชาธิปไตยต่อไป