พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. เปิดเผยว่า จากการประชุม ศอ.รส.ในช่วงเช้าวันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลมีบุคคลหมิ่นสถาบันเบื้องสูงที่เผยแพร่ในสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) โดยศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับนายเอกภพ เหลือรา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้ว และที่ประชุมได้ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานของ ศอ.รส. ว่า ขณะนี้เป็นช่วงของการเจรจาทำความเข้าใจกัน แต่ยังมีการกดดันจากผู้ชุมนุมในสถานที่สำคัญ และขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
สำหรับคดีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณถนนราชดำเนินนั้น สามารถระบุตัวบุคคลได้แล้ว และศาลอาญาได้นัดไต่สวนในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ รวมถึงได้เน้นย้ำการตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง เพื่อป้องกันเหตุร้ายทั้งกับผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้พกพาอาวุธปืนได้ 7 ราย ซึ่งเป็นอาสาสมัครจากการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุม 3 ราย
ขณะที่ พ.ต.อ.(หญิง) วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ศอ.รส. กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เนื่องจากยังมีผู้พยายามสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
สำหรับคดีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณถนนราชดำเนินนั้น สามารถระบุตัวบุคคลได้แล้ว และศาลอาญาได้นัดไต่สวนในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ รวมถึงได้เน้นย้ำการตั้งด่านตรวจเข้มแข็ง เพื่อป้องกันเหตุร้ายทั้งกับผู้ชุมนุมและประชาชนทั่วไป ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้พกพาอาวุธปืนได้ 7 ราย ซึ่งเป็นอาสาสมัครจากการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุม 3 ราย
ขณะที่ พ.ต.อ.(หญิง) วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษก ศอ.รส. กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เนื่องจากยังมีผู้พยายามสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
