นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. นำคณะกรรมการ กปปส.เข้าพบ 7 องค์กรภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทจดทะเบียนแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมตลาดทุน และสมาคมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ห้องรัตนโกสินทร์ โรงแรมเดอะสุโกศล
นายสุเทพ เป็นผู้กล่าวแนะนำ และอธิบายรูปแบบสภาประชาชน โดยที่มาจะมีผู้ได้รับการเลือกตั้ง 400 คน 300 คนมาจากสาขาวิชาชีพ และอีก 100 คนมาจากผู้ทรงคุณวุฒิ และรัฐบาลรักษาการจะต้องลาออก และจะทำให้บ้านเมืองเกิดสุญญากาศ 1-2 วัน จากนั้นจะให้รองประธานวุฒิสภา เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีให้เป็นไปตามมาตรา 7 และให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นผู้ตั้งสภาประชาชน และเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในสมัยจอมพลถนอม จึงเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลมีเพียง 2 ทางเลือกคือ ประชาชนจะยึดอำนาจอธิปไตย ขณะเดียวกันกับที่ทหารปฏิวัติและใช้อำนาจ ส่วนทางเลือกที่ 2 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากนายกรัฐมนตรีรักษาการ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีคนกลางจะไม่ได้มาจาก กปปส. แต่จะเป็นคนดีที่ประชาชนมั่นใจได้ จากนั้นให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ออก พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ และตั้งสภาประชาชน ซึ่งจะไม่ใช่คนทางพรรคการเมือง อีกทั้งการต่อสู้ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ได้เชิญชวนคนเสื้อแดงเข้าร่วม เพื่อที่จะให้ไทยนั้นกลับมาเป็นสยามเมืองยิ้ม แต่ปฏิเสธที่จะรับฟังความเห็นจากแกนนำคนเสื้อแดง อาทิ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมกับยืนยันว่า สภาปฏิรูปต้องเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง และไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกตั้งภายในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เชื่อว่าสามารถเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้ ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น หากไม่เกิดการปฏิรูป
โดยสภาอุตสาหกรรม ระบุว่า หลังจากมีการพบกันวันนี้ จะนำข้อมูลนั้นกลับไปรวบรวม และพิจารณาต่อไป
นายสุเทพ เป็นผู้กล่าวแนะนำ และอธิบายรูปแบบสภาประชาชน โดยที่มาจะมีผู้ได้รับการเลือกตั้ง 400 คน 300 คนมาจากสาขาวิชาชีพ และอีก 100 คนมาจากผู้ทรงคุณวุฒิ และรัฐบาลรักษาการจะต้องลาออก และจะทำให้บ้านเมืองเกิดสุญญากาศ 1-2 วัน จากนั้นจะให้รองประธานวุฒิสภา เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีให้เป็นไปตามมาตรา 7 และให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นผู้ตั้งสภาประชาชน และเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในสมัยจอมพลถนอม จึงเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลมีเพียง 2 ทางเลือกคือ ประชาชนจะยึดอำนาจอธิปไตย ขณะเดียวกันกับที่ทหารปฏิวัติและใช้อำนาจ ส่วนทางเลือกที่ 2 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากนายกรัฐมนตรีรักษาการ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีคนกลางจะไม่ได้มาจาก กปปส. แต่จะเป็นคนดีที่ประชาชนมั่นใจได้ จากนั้นให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ออก พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ และตั้งสภาประชาชน ซึ่งจะไม่ใช่คนทางพรรคการเมือง อีกทั้งการต่อสู้ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ได้เชิญชวนคนเสื้อแดงเข้าร่วม เพื่อที่จะให้ไทยนั้นกลับมาเป็นสยามเมืองยิ้ม แต่ปฏิเสธที่จะรับฟังความเห็นจากแกนนำคนเสื้อแดง อาทิ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมกับยืนยันว่า สภาปฏิรูปต้องเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง และไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกตั้งภายในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เชื่อว่าสามารถเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้ ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น หากไม่เกิดการปฏิรูป
โดยสภาอุตสาหกรรม ระบุว่า หลังจากมีการพบกันวันนี้ จะนำข้อมูลนั้นกลับไปรวบรวม และพิจารณาต่อไป
