นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวถึงการประกาศยุบสภาของรัฐบาล ว่า แม้จะมีการยุบสภาไปแล้ว แต่สัญญาณด้านเศรษฐกิจยังไม่ปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง เพราะความขัดแย้งในสังคมยังมีอยู่ และยังมีแนวโน้มที่ปัญหาดังกล่าวจะมีข้อยุติที่ชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศ เพราะทุก 1-2 ปี จะมีปัญหาการเมืองเสมอ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้ตลาดหุ้นจะปรับตัวดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาได้ถูกแก้ไขไปแล้วระดับหนึ่ง
ด้านนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อย่ามองแต่ปัญหาเศรษฐกิจเป็นตัวตั้ง เพราะปัญหาสำคัญของประเทศในขณะนี้ คือความแตกแยกทางสังคม ซึ่งหากคำนึงถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจ จะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป เพราะปัญหาเหล่านี้ได้รวมผลกระทบจากสังคมและการเมืองเข้าไปด้วยกัน จึงมองว่าต้องหาแนวทางที่ไม่ทำให้คนไทยมีความคิดแตกแยกเป็นสองฝ่าย ส่วนปัญหาเศรษฐกิจต้องเร่งแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน แล้วสถานการณ์จะดีขึ้นเอง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้ตลาดหุ้นจะปรับตัวดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาได้ถูกแก้ไขไปแล้วระดับหนึ่ง
ด้านนายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อย่ามองแต่ปัญหาเศรษฐกิจเป็นตัวตั้ง เพราะปัญหาสำคัญของประเทศในขณะนี้ คือความแตกแยกทางสังคม ซึ่งหากคำนึงถึงปัจจัยด้านเศรษฐกิจ จะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป เพราะปัญหาเหล่านี้ได้รวมผลกระทบจากสังคมและการเมืองเข้าไปด้วยกัน จึงมองว่าต้องหาแนวทางที่ไม่ทำให้คนไทยมีความคิดแตกแยกเป็นสองฝ่าย ส่วนปัญหาเศรษฐกิจต้องเร่งแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน แล้วสถานการณ์จะดีขึ้นเอง
