นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่วานนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ดูแลเวทีหาทางออกประเทศไทย ว่า ขณะนี้ภาคเอกชน นักธุรกิจ เริ่มรวมตัวเปิดเวทีให้ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ซึ่งรัฐบาลจะรอนำข้อสรุปมาหารือกันอีกครั้ง โดยเวทีนี้จะแตกต่างจากเวทีปฏิรูปประเทศไทยของรัฐบาล เพราะเป็นการลงลึกในประเด็นเฉพาะเรื่อง ซึ่งข้อสรุปจากเวทีดังกล่าวจะยึดตามรัฐธรรมนูญ เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะให้นักวิชาการ คณะอาจารย์ และทุกภาคส่วน ได้วิพากษ์วิจารณ์หาทางออกที่จะนำมาเป็นทางเลือกหนึ่ง สามารถดำเนินการได้ภายใน 10-15 วัน เชื่อว่าเวทีนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกให้กับประเทศได้ หากคนส่วนใหญ่เห็นด้วย สามารถเสนอความเห็นมายังรัฐบาลได้ รวมถึงข้อเสนอของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. รัฐบาลก็ยินดีรับฟัง ส่วนจะมีคนกลางเข้ามามีส่วนร่วมหรือไม่นั้น มองว่าน่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดประเด็น และสรุปประเด็นในการหารือ
ขณะที่ข้อเสนอของนายสุเทพ ที่้ต้องการนายกรัฐมนตรีพระราชทานนั้น ไม่ใช่การอ้างนำมาตรา 7 มาใช้ ก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากต้องใช้ระบบกลไกรัฐสภาในการบริหารงาน ส่วนข้อเสนอสภาประชาชน ถึงแม้จะมีการเสนอความคิดจากทุกภาคส่วน ท้ายที่สุดแล้ว สรุปจะไม่แตกต่างกัน เพราะหนีไม่พ้นการเลือกตั้ง
ขณะที่ข้อเสนอของนายสุเทพ ที่้ต้องการนายกรัฐมนตรีพระราชทานนั้น ไม่ใช่การอ้างนำมาตรา 7 มาใช้ ก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากต้องใช้ระบบกลไกรัฐสภาในการบริหารงาน ส่วนข้อเสนอสภาประชาชน ถึงแม้จะมีการเสนอความคิดจากทุกภาคส่วน ท้ายที่สุดแล้ว สรุปจะไม่แตกต่างกัน เพราะหนีไม่พ้นการเลือกตั้ง