นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า การชุมนุมทางเมืองที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องสร้างความไม่ชัดเจน และสะท้อนถึงความแตกแยกของคนในประเทศเป็นปัจจัยลบที่กดดันตลาดทุน โดยได้ปรับลดประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เหลือเพียงร้อยละ 8 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 25 ขณะที่ปีหน้าคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากเดิมที่ร้อยละ 15
นอกจากนี้ ประเทศขาดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มาหลายปี ซึ่งหากร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ล่าช้าอีกจะมีผลให้นักลงทุนต่างชาติมองว่าไทยขาดควาามน่าสนใจในการลงทุน
ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า หากการเมืองคลี่คลายโดยเร็วจะทำให้ตลาดหุ้นรีบาวด์กลับมาได้ แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อตลาดจะยังคงผันผวนและทำให้ดัชนีแกว่งอยู่ในกรอบ 1,400-1,500 จุด แต่หากสถานการณ์รุนแรงจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอาจทำให้ดัชนีหุ้นในปีหน้าต่ำกว่า 1,400 จุดได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมองตลาดหุ้นในปีหน้าจะสดใสกว่าปีนี้ โดยดัชนีจะอยู่ในระดับ 1,600 จุด แต่กลยุทธ์ปีหน้าควรเน้นลงทุนระยะยาว โดยกลุ่มที่น่าสนใจ คือ อาหาร ส่งออก และปิโตรเคมี
นอกจากนี้ ประเทศขาดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มาหลายปี ซึ่งหากร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ล่าช้าอีกจะมีผลให้นักลงทุนต่างชาติมองว่าไทยขาดควาามน่าสนใจในการลงทุน
ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า หากการเมืองคลี่คลายโดยเร็วจะทำให้ตลาดหุ้นรีบาวด์กลับมาได้ แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อตลาดจะยังคงผันผวนและทำให้ดัชนีแกว่งอยู่ในกรอบ 1,400-1,500 จุด แต่หากสถานการณ์รุนแรงจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอาจทำให้ดัชนีหุ้นในปีหน้าต่ำกว่า 1,400 จุดได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมองตลาดหุ้นในปีหน้าจะสดใสกว่าปีนี้ โดยดัชนีจะอยู่ในระดับ 1,600 จุด แต่กลยุทธ์ปีหน้าควรเน้นลงทุนระยะยาว โดยกลุ่มที่น่าสนใจ คือ อาหาร ส่งออก และปิโตรเคมี