นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายเจริญ จรรย์โกมล และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังหารือกับฝ่ายกฎหมายของรัฐสภา ยืนยันว่าญัตติยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านไม่สมบูรณ์ เพราะกฎหมายกำหนดให้แนบสำเนาคำร้องมาประกอบญัตติด้วย มิฉะนั้นประธานในที่ประชุมจะไม่สามารถควบคุมการประชุมได้
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรส่งหนังสือท้วงถามสำเนาถอดถอนจากฝ่ายค้าน และให้เวลาในการยื่นเอกสารจนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 16.30 น. เพื่อให้สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันในสมัยประชุมนี้ แต่หากฝ่ายค้านไม่ยื่นก็จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะมีความชัดเจนในวันที่ 22 พฤศจิกายน โดยการพิจารณาจะคำนึงถึงสถานการณ์บ้านเมืองประกอบด้วย ยืนยันว่าการไม่บรรจุระเบียบวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่การเปิดทางให้ยุบสภาฯ
นอกจากนี้ ยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.เพราะสมาชิกรัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 291 และไม่บทบัญญัติใดรองรับอำนาจศาลในการกระทำดังกล่าว
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรส่งหนังสือท้วงถามสำเนาถอดถอนจากฝ่ายค้าน และให้เวลาในการยื่นเอกสารจนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน เวลา 16.30 น. เพื่อให้สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันในสมัยประชุมนี้ แต่หากฝ่ายค้านไม่ยื่นก็จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะมีความชัดเจนในวันที่ 22 พฤศจิกายน โดยการพิจารณาจะคำนึงถึงสถานการณ์บ้านเมืองประกอบด้วย ยืนยันว่าการไม่บรรจุระเบียบวาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่การเปิดทางให้ยุบสภาฯ
นอกจากนี้ ยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.เพราะสมาชิกรัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 291 และไม่บทบัญญัติใดรองรับอำนาจศาลในการกระทำดังกล่าว
