สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดงานสถาปนาสำนักงาน ป.ป.ช.ครบรอบ 14 ปี ภายใต้แนวคิด "สังคมคุณธรรม โปร่งใส ชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย" มีองค์กรภาครัฐและเอกชน ร่วมแสดงความยินดี โดยปีนี้เน้นการสร้างกระแสรณงรค์ต่อต้านการทุจริตและปลุกจิตสำนึกด้านคุณธรรม ความโปร่งใส คืนสู่สังคมไทย หลังการทุจริตคอร์รัปชันทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ มีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "สังคมคุณธรรมโปร่งใส ชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย" โดยพระพรหมบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยได้ยกประวัติศาสตร์ประเทศต่างๆ ที่ล่มสลายเพราะการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องเดินตามรอยดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ ป.ป.ช.และองค์กรต่างๆ ปลุกจิตสำนึกให้เปลี่ยนค่านิยมจากการนับถือเงินตรา เป็นการคำนึงถึงเกียรติและความซื่อสัตย์ และร่วมกันรังเกียจและเปิดโปงผู้ที่ได้เงินหรือร่ำรวยแบบไม่ถูกต้อง
พระพรหมบัณฑิต เชื่อว่าสังคมไทยร่วมกันต่อต้านคนทุจริต และร่วมชื่นชมผู้ที่ทำความดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว จะช่วยให้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น พร้อมกับขอให้ ป.ป.ช.และองค์กรอิสระเป็นที่พึ่ง และเป็นที่คาดหวังของทุกฝ่าย เพื่อทำให้ผู้บริหารประเทศและในองค์กรต่างๆ ไม่กล้าที่จะทำการทุจริต หลังจากประเทศไทยเสียโอกาสไปมากแล้ว
โอกาสนี้ มีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "สังคมคุณธรรมโปร่งใส ชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย" โดยพระพรหมบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยได้ยกประวัติศาสตร์ประเทศต่างๆ ที่ล่มสลายเพราะการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องเดินตามรอยดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ ป.ป.ช.และองค์กรต่างๆ ปลุกจิตสำนึกให้เปลี่ยนค่านิยมจากการนับถือเงินตรา เป็นการคำนึงถึงเกียรติและความซื่อสัตย์ และร่วมกันรังเกียจและเปิดโปงผู้ที่ได้เงินหรือร่ำรวยแบบไม่ถูกต้อง
พระพรหมบัณฑิต เชื่อว่าสังคมไทยร่วมกันต่อต้านคนทุจริต และร่วมชื่นชมผู้ที่ทำความดี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแล้ว จะช่วยให้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น พร้อมกับขอให้ ป.ป.ช.และองค์กรอิสระเป็นที่พึ่ง และเป็นที่คาดหวังของทุกฝ่าย เพื่อทำให้ผู้บริหารประเทศและในองค์กรต่างๆ ไม่กล้าที่จะทำการทุจริต หลังจากประเทศไทยเสียโอกาสไปมากแล้ว
