ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้สอดคล้องกับสภาวะอากาศในระยะนี้ โดยช่วงวันที่ 16-17 นี้ อิทธิพลของพายุโซนร้อนโพดอล จะส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ ตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น และจะมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.ระยอง จันทบุรี ตราด ราชบุรี เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยให้ระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาเพิ่ม พร้อมกับรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนให้จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
ขณะที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ได้วางแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ และอ่างเก็บน้ำห้วยผาก ด้วยการระบายน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำหลากที่จะไหลลงอ่างตั้งแต่วานนี้ (14 พ.ย.) ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงมาถึงเขื่อนเพชร และโครงการต้องควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนเพชรลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี โดยเกณฑ์ประมาณ 150 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนเพชรไปจนถึง อ.บ้านแหลม มีระดับน้ำสูงขึ้นใกล้เคียงกับระดับน้ำสูงสุดในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะไหลลงสู่ อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมืองเพชรบุรี และ อ.บ้านแหลม
ขณะที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ได้วางแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์ และอ่างเก็บน้ำห้วยผาก ด้วยการระบายน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำหลากที่จะไหลลงอ่างตั้งแต่วานนี้ (14 พ.ย.) ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงมาถึงเขื่อนเพชร และโครงการต้องควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขื่อนเพชรลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี โดยเกณฑ์ประมาณ 150 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนเพชรไปจนถึง อ.บ้านแหลม มีระดับน้ำสูงขึ้นใกล้เคียงกับระดับน้ำสูงสุดในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะไหลลงสู่ อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมืองเพชรบุรี และ อ.บ้านแหลม