นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่มคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป่านกหวีดใส่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า ตนเห็นภาพข่าว ส.ส.หญิงพรรคประชาธิปัตย์กระทำแบบนั้นแล้วไม่สบายใจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์กำลังสร้างวัฒนธรรมไม่ดีให้กับการเมืองไทย หน้าที่ ส.ส. คือการทำงานเป็นผู้แทนประชาชนในสภาฯ ไม่ใช่ไปยืนเป่านกหวีดตามท้องถนน
นายจารุพงศ์ กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ตนนึกถึงคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งประกาศลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดกับคนใกล้ชิดเป็นวลีติดปากในสมัยปี 2490 เป็นการแสดงความเห็นต่อวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดูภาพลักษณ์ภายนอกมีความสวยงาม แต่เนื้อแท้แล้วไม่เป็นเช่นนั้น โดยสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ อาจเป็นการแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง แต่ลืมคิดไปว่าคนในประเทศไทยไม่ได้ชอบพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด ยังมีคนเห็นต่าง หากคนเห็นต่างลุกขึ้นมาแสดงท่าทีคัดค้าน หรือตอบโต้สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น พรรคประชาธิปัตย์เองไม่ใช่หรือที่บอกว่าต้องการความปรองดอง แต่สิ่งที่ทำตอนนี้จะทำให้สังคมร้าวลึกลงไปอีก ทั้งหมดเพราะต้องการอยากจะชนะ อยากข่มขู่คนอื่น แต่ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำจะทำให้เกิดอะไรขึ้น เด็กหรือเยาวชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วยจะจำพฤติกรรมนี้ไปใช้ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งดี อย่าบอกว่านี่คืออารยะขัดขืน สิ่งที่เรียกว่าอารยะจะต้องก่อให้เกิดความดี ถ้าก่อให้เกิดความแตกแยกเรียกว่าอนารยะ
นายจารุพงศ์ กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ตนนึกถึงคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งประกาศลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดกับคนใกล้ชิดเป็นวลีติดปากในสมัยปี 2490 เป็นการแสดงความเห็นต่อวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ดูภาพลักษณ์ภายนอกมีความสวยงาม แต่เนื้อแท้แล้วไม่เป็นเช่นนั้น โดยสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ อาจเป็นการแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง แต่ลืมคิดไปว่าคนในประเทศไทยไม่ได้ชอบพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด ยังมีคนเห็นต่าง หากคนเห็นต่างลุกขึ้นมาแสดงท่าทีคัดค้าน หรือตอบโต้สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น พรรคประชาธิปัตย์เองไม่ใช่หรือที่บอกว่าต้องการความปรองดอง แต่สิ่งที่ทำตอนนี้จะทำให้สังคมร้าวลึกลงไปอีก ทั้งหมดเพราะต้องการอยากจะชนะ อยากข่มขู่คนอื่น แต่ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำจะทำให้เกิดอะไรขึ้น เด็กหรือเยาวชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วยจะจำพฤติกรรมนี้ไปใช้ เพราะคิดว่าเป็นสิ่งดี อย่าบอกว่านี่คืออารยะขัดขืน สิ่งที่เรียกว่าอารยะจะต้องก่อให้เกิดความดี ถ้าก่อให้เกิดความแตกแยกเรียกว่าอนารยะ
