นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้าอุปโภคและบริโภค ที่จำเป็นต่อค่าครองชีพ เช่น สบู่ แชมพู ยาสีฟัน และผงซักฟอก เป็นต้น เนื่องจากการรับรายงาน และตรวจสอบด้วยตนเอง ยอมรับว่า มีบางรายการสินค้าอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ที่กำหนดในเรื่องของเพดานราคา แต่ยังไม่ได้กำหนดปริมาณสินค้า โดยมีการลดปริมาณและไม่ได้ลดราคา ซึ่งเอาเปรียบผู้บริโภค และเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ พฤติกรรมการผลิตและการบริโภค มีการปรับเปลี่ยน เช่น สบู่ เดิมจะนิยมใช้แบบก้อน แต่ปรับเปลี่ยนมานิยมแบบสบู่น้ำ จึงได้สั่งการให้มีการศึกษา หากการปรับเปลี่ยนการผลิตไม่ตรงกับการขออนุญาต กรมการค้าภายในถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยในเบื้องต้นกรมการค้าภายในจะเข้าไปดูสินค้าอุปโภคและบริโภคที่อยู่ที่บัญชีสินค้าที่ต้องติดตามใกล้ชิด จำนวนกว่า 200 รายการ
นอกจากนี้ ทางกรมการค้าภายในจะเข้าไปศึกษาต้นทุนในกลุ่มสินค้าไอทีต่างๆ เพื่อดูต้นทุนที่เหมาะสมกับคุณภาพหรือไม่
นอกจากนี้ พฤติกรรมการผลิตและการบริโภค มีการปรับเปลี่ยน เช่น สบู่ เดิมจะนิยมใช้แบบก้อน แต่ปรับเปลี่ยนมานิยมแบบสบู่น้ำ จึงได้สั่งการให้มีการศึกษา หากการปรับเปลี่ยนการผลิตไม่ตรงกับการขออนุญาต กรมการค้าภายในถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยในเบื้องต้นกรมการค้าภายในจะเข้าไปดูสินค้าอุปโภคและบริโภคที่อยู่ที่บัญชีสินค้าที่ต้องติดตามใกล้ชิด จำนวนกว่า 200 รายการ
นอกจากนี้ ทางกรมการค้าภายในจะเข้าไปศึกษาต้นทุนในกลุ่มสินค้าไอทีต่างๆ เพื่อดูต้นทุนที่เหมาะสมกับคุณภาพหรือไม่