นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายพิชา วิจิตศิลป์ ทนายความ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ปรีชา ศรีอุดม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในข้อหาพยายามก่อการกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 กรณีประกาศตั้งศาลประชาชนพิพากษาผู้ที่เกี่ยวข้องหากไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
หนังสือประกอบการแจ้งความระบุว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายสุเทพ ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีการชุมนุมที่ถนนราชดำเนินเพื่อตั้งศาลประชาชนพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และตระกูลชินวัตร ในเวลา 18.00 น.วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ หากรัฐบาลไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้พ้นจากสารบบซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ทั้งที่นายสุเทพทราบขั้นตอนของกฎหมายดี อีกทั้งนายกรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา ประกาศเจตนารมณ์ให้ร่างกฎหมายดังกล่าวตกไปแล้ว แต่นายสุเทพกลับสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การล้มล้างรัฐบาลได้
หนังสือประกอบการแจ้งความระบุว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายสุเทพ ได้กล่าวปราศรัยบนเวทีการชุมนุมที่ถนนราชดำเนินเพื่อตั้งศาลประชาชนพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และตระกูลชินวัตร ในเวลา 18.00 น.วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ หากรัฐบาลไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้พ้นจากสารบบซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ทั้งที่นายสุเทพทราบขั้นตอนของกฎหมายดี อีกทั้งนายกรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา ประกาศเจตนารมณ์ให้ร่างกฎหมายดังกล่าวตกไปแล้ว แต่นายสุเทพกลับสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การล้มล้างรัฐบาลได้
