รศ.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างภาษี เพราะหากปล่อยให้รายจ่ายมากกว่ารายได้ รัฐบาลต้องพึ่งพาเงินกู้นอกระบบ รวมถึงต้องลดงบประมาณลงทุนในประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจ โดยปัจจัยหลัก 3 ด้าน ที่ต้องปรับโครงสร้างภาษี ประกอบด้วย การเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะทำให้ฐานการจัดเก็บรายได้ภาษีทางตรงลดน้อยลง และความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ ซึ่งการปรับโครงสร้างภาษีต้องไม่กระทบผู้มีรายได้น้อย
รศ.สกนธ์ ยังระบุว่า ไทยพึ่งเม็ดเงินการลงทุนของต่างชาติ ดังนั้นการปรับปรุงโครงสร้างภาษี จึงต้องดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันต้องสร้างแรงจูงใจด้านภาษีให้นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศด้วย รวมถึงสร้างช่องทางภาษีใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมทิศทางพัฒนาประเทศ เช่นภาษีสิ่งแวดล้อม และภาษีสินค้าด้านนวัตกรรม
รศ.สกนธ์ ยังระบุว่า ไทยพึ่งเม็ดเงินการลงทุนของต่างชาติ ดังนั้นการปรับปรุงโครงสร้างภาษี จึงต้องดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกันต้องสร้างแรงจูงใจด้านภาษีให้นักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศด้วย รวมถึงสร้างช่องทางภาษีใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมทิศทางพัฒนาประเทศ เช่นภาษีสิ่งแวดล้อม และภาษีสินค้าด้านนวัตกรรม