นายศักดิ์ดา ทองปลาด ผู้บริหารตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟท) ยอมรับว่า ตลาดเอเฟทยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากมีนโยบายด้านอื่นที่ได้รับความสนใจมากกว่า ทำให้ผู้ที่จะเข้าซื้อขายสินค้าในรูปแบบการประมูลช่องทางนี้ไม่สามารถคาดการณ์ราคาได้ อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลเร่งนำข้าวในสต๊อกออกมาระบายผ่านทางเอเฟท เชื่อว่าจะทำให้กลไกตลาดค้าข้าวกลับมาทำงานได้ตามปกติ
ส่วนการเปิดประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาลครั้งแรกผ่านเอเฟทนั้น คาดการณ์ว่าจะทราบผู้ชนะในสัปดาห์นี้ หลังมีเอกชนที่สนใจเข้าร่วมประมูล 5 ราย แต่ละรายตั้งราคาประมูลต่ำกว่าราคากลาง
สำหรับข้าวที่ประมูลผ่านตลาดเอเฟทครั้งนี้ มีจำนวนกว่า 150,000 ตัน โดยเป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 110,000 ตัน จากคลังใน จ.นครสวรรค์ สุพรรณบุรี ชัยนาท และสระบุรี และข้าวหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 2 ประมาณ 40,000 ตัน จากคลังใน จ.อุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนจะระบายข้าวในสต๊อกผ่านตลาดเอเฟท รวมปริมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งจะเปิดประมูล 5 ครั้ง ไปจนถึงกลางปีหน้า
ส่วนการเปิดประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาลครั้งแรกผ่านเอเฟทนั้น คาดการณ์ว่าจะทราบผู้ชนะในสัปดาห์นี้ หลังมีเอกชนที่สนใจเข้าร่วมประมูล 5 ราย แต่ละรายตั้งราคาประมูลต่ำกว่าราคากลาง
สำหรับข้าวที่ประมูลผ่านตลาดเอเฟทครั้งนี้ มีจำนวนกว่า 150,000 ตัน โดยเป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 110,000 ตัน จากคลังใน จ.นครสวรรค์ สุพรรณบุรี ชัยนาท และสระบุรี และข้าวหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 2 ประมาณ 40,000 ตัน จากคลังใน จ.อุบลราชธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนจะระบายข้าวในสต๊อกผ่านตลาดเอเฟท รวมปริมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งจะเปิดประมูล 5 ครั้ง ไปจนถึงกลางปีหน้า
