การดำเนินกิจกรรมการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่บริเวณแยกถนนกำแพงเพชร 5 ตัดถนนเศรษฐศิริ หรือช่วงสถานีรถไฟสามเสน ในตลอดทั้งคืนเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางเข้าร่วมการชุมนุมกับเหล่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์กันอย่างหนาแน่น ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ ภาคธุรกิจ รวมถึงเครือข่ายกลุ่มนักศึกษาอาชีวะ และมหาวิทยาลัย
ขณะที่บนเวทีปราศรัย มีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยหลายคนด้วยกัน เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้กล่าวบนเวทีต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมว่า จะเดินหน้าชุมนุมจนถึงที่สุด พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นการออกมาต่อสู้ของประชาชนที่ยึดเน้นการต่อสู่แบบสันติ และไม่มีความรุนแรง
ด้านนายกรณ์ จาติกวนิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมภาคประชาชนที่เห็นตรงกัน คือ การต่อต้านรัฐบาลต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเฉพาะที่มีการแปรญัตติ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้รวมถึงกลุ่มผู้กระทำผิดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชุนุมนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนรับไม่ได้
นอกจากนี้ นายกรณ์ ระบุถึงความเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาชน 77 จังหวัด นำโดย นายสุริยะใส กตะศิลา กรณีนัดถกแกนนำ เตรียมเป่านกหวีด ในช่วงบ่ายวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ว่า ได้มีการประสานงานกันเป็นระยะอยู่แล้ว และทุกกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในขณะนี้ทั้งในกรุงเทพมหานคร และในต่างจังหวัดล้วนเป็นเครือข่ายเดียวกัน
ขณะที่ภาคประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมได้แสดงความคิดเห็น และแสดงจุดยืนในการเข้าร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในครั้งนี้ด้วย โดยมองว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่มีความเป็นธรรม ซึ่งหากรัฐบาลผลักดันได้สำเร็จ ในอนาคตก็จะมีกลุ่มคนออกมาต่อต้านเช่นในครั้งนี้ ซึ่งที่สุดแล้วประเทศไทยก็จะยังวนเวียนอยู่กับการชุมนุมไม่สิ้นสุด
ทั้งนี้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีปราศรัยด้วยว่า การชุมนุมจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากนี้กิจกรรมการชุมนุมจะมีขึ้น ในเวลา 18.00 น. ของทุกวัน ไปจนกว่ารัฐบาลจะยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสภาฯ
ขณะที่บนเวทีปราศรัย มีแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยหลายคนด้วยกัน เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้กล่าวบนเวทีต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมว่า จะเดินหน้าชุมนุมจนถึงที่สุด พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นการออกมาต่อสู้ของประชาชนที่ยึดเน้นการต่อสู่แบบสันติ และไม่มีความรุนแรง
ด้านนายกรณ์ จาติกวนิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมภาคประชาชนที่เห็นตรงกัน คือ การต่อต้านรัฐบาลต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเฉพาะที่มีการแปรญัตติ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้รวมถึงกลุ่มผู้กระทำผิดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชุนุมนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนรับไม่ได้
นอกจากนี้ นายกรณ์ ระบุถึงความเคลื่อนไหวของเครือข่ายภาคประชาชน 77 จังหวัด นำโดย นายสุริยะใส กตะศิลา กรณีนัดถกแกนนำ เตรียมเป่านกหวีด ในช่วงบ่ายวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ว่า ได้มีการประสานงานกันเป็นระยะอยู่แล้ว และทุกกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในขณะนี้ทั้งในกรุงเทพมหานคร และในต่างจังหวัดล้วนเป็นเครือข่ายเดียวกัน
ขณะที่ภาคประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมได้แสดงความคิดเห็น และแสดงจุดยืนในการเข้าร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในครั้งนี้ด้วย โดยมองว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่มีความเป็นธรรม ซึ่งหากรัฐบาลผลักดันได้สำเร็จ ในอนาคตก็จะมีกลุ่มคนออกมาต่อต้านเช่นในครั้งนี้ ซึ่งที่สุดแล้วประเทศไทยก็จะยังวนเวียนอยู่กับการชุมนุมไม่สิ้นสุด
ทั้งนี้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีปราศรัยด้วยว่า การชุมนุมจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากนี้กิจกรรมการชุมนุมจะมีขึ้น ในเวลา 18.00 น. ของทุกวัน ไปจนกว่ารัฐบาลจะยอมถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสภาฯ