นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบกับประเทศผู้ซื้อหลายประเทศมีกำลังซื้อลดลง ส่งผลให้การส่งออกไทยปีนี้จะเติบโตได้เพียงร้อยละ 1 หรือประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ร้อยละ 2.5 โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าการส่งออกเพียง 172,139.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวเพียงร้อยละ 0.05
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน การส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ดีกว่ามาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งติดลบทั้ง 3 ประเทศ ดังนั้น จึงมองว่าการส่งออกของไทยปีหน้าอาจจะขยายตัวได้ร้อยละ 5-7 แต่ยอมรับเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองจะกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออก
ด้านนายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนและผลต่อลอจิสติกส์ที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง ดังนั้น หากจะมีการชุมนุมไม่ควรปิดเส้นทางสำคัญ และรัฐบาลควรแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
นอกจากนี้ ระยะเร่งด่วนไทยจะต้องติดตามกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค แก้ไขปัญหาความล่าช้า และการจราจรในพื้นที่ชั่งน้ำหนักบริเวณท่าเรือขนส่งสินค้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน การส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ดีกว่ามาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งติดลบทั้ง 3 ประเทศ ดังนั้น จึงมองว่าการส่งออกของไทยปีหน้าอาจจะขยายตัวได้ร้อยละ 5-7 แต่ยอมรับเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองจะกระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออก
ด้านนายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนและผลต่อลอจิสติกส์ที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางการขนส่ง ดังนั้น หากจะมีการชุมนุมไม่ควรปิดเส้นทางสำคัญ และรัฐบาลควรแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
นอกจากนี้ ระยะเร่งด่วนไทยจะต้องติดตามกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค แก้ไขปัญหาความล่าช้า และการจราจรในพื้นที่ชั่งน้ำหนักบริเวณท่าเรือขนส่งสินค้า
